简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ในบทเรียนก่อนหน้านี้ คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดแนวรับและแนวต้าน มาทบทวนสิ่งที่คุณได้เรียนรู้กันเถอะ เมื่อราคาขยับขึ้นแล้วดึงกลับ จุดที่สูงที่สุดก่อนที่จะดึงกลับคือแนวต้าน
สรุป: แนวรับและแนวต้านการซื้อขาย
ในบทเรียนก่อนหน้านี้ คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดแนวรับและแนวต้าน
มาทบทวนสิ่งที่คุณได้เรียนรู้กันเถอะ
เมื่อราคาขยับขึ้นแล้วดึงกลับ จุดที่สูงที่สุดก่อนที่จะดึงกลับคือแนวต้าน
ขณะที่ราคายังคงสูงขึ้นต่อ ตอนนี้จุดต่ำสุดที่ไปถึงก่อนที่จะปีนกลับขึ้นมาคือแนวรับ
แนวรับและแนวต้านคือโซน (Support and Resistance are Zones)
สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือ
ระดับแนวรับและแนวต้านมักไม่ใช่ตัวเลขที่แน่นอน
เพื่อช่วยคุณกรองการฝ่าวงล้อมที่ผิดพลาดเหล่านี้ออกไป คุณควรคิดถึงแนวรับและแนวต้านเป็น “โซน” มากกว่าที่จะเป็นตัวเลขที่เป็นรูปธรรม
วิธีหนึ่งที่จะช่วยคุณค้นหาโซนเหล่านี้คือการวางแผนแนวรับและแนวต้าน บนแผนภูมิเส้นแทนที่จะเป็นแผนภูมิแท่ง
แนวรับและแนวต้านสามารถพลิกบทบาทได้(Support and Resistance Can Reverse Roles)
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือ เมื่อราคาผ่านระดับแนวต้านแนวต้านนั้นอาจกลายเป็นแนวรับได้
สิ่งเดียวกันอาจเกิดขึ้นกับระดับแนวรับ หากแนวรับขาดก็อาจกลายเป็นแนวต้านได้เช่นกัน
แนวคิดนี้เรียกว่า“การพลิกกลับบทบาท”
เส้นแนวโน้ม(Trend Lines)
ในรูปแบบเบสิกที่สุด เส้นแนวโน้มขาขึ้นจะถูกวาดตามด้านล่างของพื้นที่สนับสนุนที่ระบุได้ง่าย (หุบเขา)
ในแนวโน้มขาลง เส้นแนวโน้มจะถูกวาดไปตามด้านบนของพื้นที่แนวต้านที่ระบุได้ง่าย (จุดสูงสุด)
ประเภทของแนวโน้มมี3ประเภท:
1.แนวโน้มขาขึ้น (ระดับต่ำสุดที่สูงขึ้น)
2.แนวโน้มขาลง (เสียงสูงต่ำ)
3.ด้านข้างหรือไม่มีเทรนด์(เป็นช่วงหรือแบน)
ช่องเทรนด์ (Trend Channels)
ช่องเทรนด์มี 3 ประเภท ได้แก่
1.ช่องทางจากน้อยไปมาก (สูงและต่ำที่สูงขึ้น)
2.แชนเนลจากมากไปน้อย (ต่ำขึ้นและลงต่ำ)
3.ช่องแนวนอน (ช่วง)
หากต้องการสร้างช่องขึ้น (จากน้อยไปมาก) ให้ลากเส้นคู่ขนานในมุมเดียวกับเส้นแนวโน้มขาขึ้น จากนั้นเลื่อนเส้นนั้นไปยังตำแหน่งที่แตะจุดสูงสุดล่าสุด
ในการสร้างช่องสัญญาณลง (จากมากไปน้อย) ให้ลากเส้นคู่ขนานในมุมเดียวกับเส้นแนวโน้มขาลง จากนั้นเลื่อนเส้นนั้นไปยังตำแหน่งที่สัมผัสกับหุบเขาล่าสุด
หากต้องการสร้างช่องด้านข้าง (แนวนอน) ให้วาดเส้นคู่ขนานที่มุมศูนย์หรือมุมแบน
วิธีการเทรดแนวรับและแนวต้าน (How to Trade Support and Resistance)
ระดับแนวรับและแนวต้านการเทรดสามารถแบ่งออกเป็นสองวิธี
1. “Bounce”
2. Break
เมื่อทำการซื้อขายด้วยBounce เราต้องการเทโอกาสที่เราต้องการและค้นหาคำยืนยันบางอย่างว่าแนวรับหรือแนวต้านจะคงอยู่
แทนที่จะเพียงแค่ซื้อหรือขายทันที ให้รอให้เด้งก่อนแล้วเข้า
การทำเช่นนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่ราคาเคลื่อนที่เร็วมากจนทะลุผ่านแนวรับและแนวต้านได้ เช่น มีดเฉือนเนยอุ่นๆ
หรือมือที่อบอุ่นของคุณ
สำหรับการซื้อขาBreak มีวิธีที่เป็นเชิงรุกและมีวิธีอนุรักษ์นิยม
ในเชิงรุก คุณเพียงแค่BuyหรือSellเมื่อใดก็ตามที่ราคาผ่านแนวรับหรือแนวต้านได้อย่างง่ายดาย
ในทางอนุรักษ์นิยม คุณรอให้ราคาทำการ “ดึงกลับ” ไปที่ระดับแนวรับหรือแนวต้านที่ขาดแล้วและเข้าสู่หลังจากที่ราคาตีกลับ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
STARTRADER
EC Markets
VT Markets
Tickmill
IC Markets Global
FBS
STARTRADER
EC Markets
VT Markets
Tickmill
IC Markets Global
FBS
STARTRADER
EC Markets
VT Markets
Tickmill
IC Markets Global
FBS
STARTRADER
EC Markets
VT Markets
Tickmill
IC Markets Global
FBS