简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,670-1,690 จุด คาด SET ยังคงมี ความผันผวน จากความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อ
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,670-1,690 จุด คาด SET ยังคงมี ความผันผวน จากความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อ และความผันผวนของราคาน้ํามันดิบ โดยเฉพาะ ราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลง เรามองเป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ํา อย่าง PTTEP แต่ยังคงแนะนํา เก็งกําไร หุ้นในกลุ่มโรงกลั่น จาก Demand น้ํามันที่ฟื้นตัว และแนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 ที่ แข็งแกร่ง
จากค่าการกลั่น และราคาน้ํามันดิบที่ยืนในระดับสูง ทําให้ผลประกอบการจะมีการรับรู้ Stock gain จํานวนมาก เราเลือก BCP และ SPRC เป็นหุ้นเด่น ขณะที่หุ้นกลุ่มหลักที่เราแนะนําการลงทุน เรา ยังเลือก หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศต่อเนื่อง ได้แก่ AOT (BK:AOT) AAV ERW และ SHR เป็นหุ้นเด่น และหุ้นในกลุ่ม Defensive Stock ที่เราแนะนําก่อนหน้า นี้ได้แก่ BH BDMS ADVANC INTUCH BLA BEM HMPR0 CPALL (BK:CPALL) และ MAKRO Trading Ideas:
การผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศต่อเนื่อง เป็นบวกต่อหุ้นท่องเที่ยว เราเลือก AOT AAV ERW และ SHR เป็นหุ้นเด่น - หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ยังคงเป็นหุ้นที่เราให้น้ําหนักการลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้ (18 มี.ค.) ศบค. ชุดใหญ่ มีมติผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศ โดยชาวต่างชาติที่จะ เดินทางเข้าไทยไม่ต้องทําการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง แต่ยังต้องตรวจ RT-PCR ในวันแรกที่เดินทางเข้ามาถึง และตรวจ self-ATK อีกครั้งในวันที่ 5 เหมือนเดิม เริ่ม 1 เม.ย. มาตรการผ่อนคลายจะยังมีต่อเนื่อง โดย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา (1) ยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในวันแรกที่เดินทาง มาถึงไทย และเปลี่ยนมาใช้วิธีการตรวจ ATK จากสถานพยาบาลรับรองผลการตรวจแทน ในวันที่ 5 เมื่อผล ตรวจเป็นลบ จึงจะสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้
ซึ่งคาดว่าจะเริ่มภายในวันที่ 1 พ.ค. (พิจารณา สถานการณ์หลังเทศกาลสงกรานต์ประกอบ จํานวนผู้ติดเชื้อไม่เกิน 5-6 หมื่นรายต่อวัน (รวม RT-PCR และ ATK) และจํานวนผู้เสียชีวิตไม่เกิน 100 รายต่อวัน) และ (2) ยกเลิกระบบไทยแลนด์ พาส (Thailand Pass) เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยกลับเข้าสู่ช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 (ปี 2562) คาดเริ่ม 1 มิ.ย. เพื่อให้ภาค การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับแผนการเปิดประเทศของ หลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะสิงค์โปร์ และเกาหลีใต้ จะอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว เดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 เม.ย. นอกจากนี้กําลังพิจารณาเรื่องการยกเลิก ข้อกําหนดการตรวจเชื่อโควิด-19 ก่อนการเดินทางด้วยวิธีสวอป เรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการ ท่องเที่ยว (1) ธุรกิจการบิน AOT BAFS AAV และ BA และ (2) ธุรกิจโรงแรม ได้แก่ ERW CENTEL MINT และ SHR
• ราคาน้ํามันดิบปรับลดลง หลัง EU มีความเห็นขัดแย้งเรื่องการควบาตร ขณะที่ท่อ CPC คาดกลับมาดําเนินการได้เร็วกว่าคาด - สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดที่ 112.34 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 2.59 เหรียญ (-2.3%) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก (1) ประเทศสมาชิกกลุ่ม EU ยังคงมีความเห็นที่ขัดแย้งกัน เกี่ยวกับการกําหนดแนวทางมาตรการคว่ําบาตรอุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซีย เนื่องจาก EU จําเป็นต้อง พึ่งพาพลังงานของรัสเซียอย่างมาก (2) การส่งออกน้ํามันจาก CPC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัสเซียและ คาซัคสถาน อาจจะเริ่มกลับมาดําเนินการได้บางส่วนในระยะอันใกล้
หลังวันพุธที่ผ่านมา CPC ไม่สามารถ ส่งออกน้ํามันจากโรงงานที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลดํา เนื่องจากได้รับความเสียหายจากพายุ และ (3) รายงานจากที่ ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุ สหรัฐฯ และพันธมิตรมีความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ อิหร่าน ซึ่งหากมีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ก็จะเป็นโอกาสในการที่อิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ํามันดิบได้อีก ครั้ง โดยก่อนหน้านี้อิหร่านออกมาระบุว่าสามารถกลับมาผลิตน้ํามันได้เต็มศักยภาพ ภายใน 2 เดือน ที่ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากมีการยกเลิกมาตรการคว่ําบาตร ซึ่งจะทําให้มีอุปทานน้ํามันดิบในตลาดเพิ่ม 1 ล้าน บาร์เรลต่อวัน เรามองเป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTTEP พาณิชย์ฯ รายงานการส่งออกเดือน ก.พ. ขยายตัว 16.2%YoY เราประเมินว่าผลกระทบจากสงครามรัสเซียยูเครน
ทําให้เป้าส่งออกปี 65 มี Downside - กระทรวงพาณิชย์ รายงานการค้าระหว่างประเทศ เดือน ก.พ. 65 มีการส่งออกมูลค่า 23,483.1 ล้านเหรียญ ขยายตัว 16.29%YoY (Market Consensus คาดขยายตัว 10%-11%) ทําให้ไทยยังคงเกินดุลการค้า 123.3 ล้านเหรียญ (ดีกว่าที่คาดว่าจะขาดดุล) ขณะที่มูลค่าการ นําเข้าอยู่ที่ 23,359.8 ล้านเหรียญ ขยายตัว 16.8%YoY ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศ 2M65 (ม.ค. ถึง ก.พ. 65) มีมูลค่าการส่งออกรวม 44,741.7 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 12.2%YoY การนําเข้ามีมูลค่ารวม 47,144.8 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 2,403 ล้านเหรียญ โดยตลาดการค้าที่ขยายตัวมากสุด ได้แก่ (1) รัสเซีย (+33.4%YoY) (2) อาเซียน 5 ประเทศ (+31.5%YoY) (3) ฮ่องกง (+29.89%YoY) (4) เกาหลีใต้ (+ 28.9%YoY) (5) สหรัฐฯ (+27.2%YoY) (6) อินเดีย (+23%YoY) (7) ไต้หวัน (+17.7%YoY) (8) สหราช อาณาจักร (+17.3%YoY) (9) CLMV (+14.4%YoY) และ (10) ตะวันออกกลาง (+13.8%YoY)
เราประเมิน ว่าภาพรวมการค้าระหว่างประเทศ ในเดือน ก.พ. 65 ยังไม่สะท้อนผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเฉพาะรัสเซีย ที่เป็นประเทศคู่ค้าที่มีการขยายตัวทางด้านการค้ามากที่สุด สถานการณ์สงครามที่มีโอกาส ยืดเยื้อ ทําให้เราประเมินว่าเป้าหมายส่งออกขยายตัว 3% ถึง 4% ของกระทรวงพาณิชย์ ยังมี Downside มุมมองทางเทคนิค – หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก AOT KBANK (BK:KBANK) และ BEM
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแผน เป้าหมายของเราคือกำไรที่เราต้องการ ความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ และความอดทน
ตั้งแต่มือใหม่ฟอเร็กซ์ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญการเทรด โอกาสเดียวเท่านั้น! เข้าร่วมกับเราในการท้าทายการเดินทางเพื่อความก้าวหน้าของผู้เริ่มต้น Forex และปลดล็อคศักยภาพของคุณ!
7 เช็กลิสต์สังเกตโบรกเกอร์ Forex หลอกลวง
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 17-18 ธ.ค. ซึ่งระบุว่า บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและผลกระทบที่อาจเกิดจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
Neex
FXTM
FOREX.com
Octa
EC Markets
Vantage
Neex
FXTM
FOREX.com
Octa
EC Markets
Vantage
Neex
FXTM
FOREX.com
Octa
EC Markets
Vantage
Neex
FXTM
FOREX.com
Octa
EC Markets
Vantage