ค่าเงินยูโรจะกลับขึ้นมาแข็งค่าอีกครั้งหรือไม่ ท่ามกลางสถานการณ์ในตลาดแบบนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เนื่องจากตัวเลขการรายงานการค้าปลีกของสหรัฐออกมาแย่กว่าที่นักคาดการณ์มีการคาดไว้ โดยยอดค้าปลีกโดยรวมปรับตัวลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ยอดค้าปลีกหลักปรับตัวลดลง 0.1%

ในวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (EU) ได้มีการบรรลุข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามรัฐสภาของสหราชอาณาจักรได้มีการเลื่อนการลงคะแนนในวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อยืดระยะเวลาในการศึกษารายละเอียดต่างๆ มากขึ้น ทั้งนี้แง่มุมของการที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปนั้นยังคงไม่มีอะไรคาดการณ์ได้ในขณะที่ตลาดยังคงมีการติดตามการปรับตัวของค่าเงินยูโรและปอนด์ของสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด

ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ธนาคารกลางยุโรปจะประกาศอัตราดอกเบี้ยและการชี้นำทิศทางนโยบายในวันพฤหัสบดีและประธานาธิบดี นายมาริ โอดรากี อาจประกาศดำเนินการเพิ่มเติมในงานแถลงข่าว โดยก่อนหน้านี้ผู้นำของสหภาพยุโรปได้เสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้นางคริสติน ลาการ์ด ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แทน

นายมาริโอ ดรากี ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนตุลาคมนี้

โดยนางคริสติน ลาการ์ด ถือเป็นความหวังของสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงที่เศรษฐกิจ

ยูโรโซนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากจากอัตราเงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้นและความเสี่ยงจากปัญหาการค้าโลก นางคริสติน ลาการ์ด อดีตผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอ็ฟ) จะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวในบรรดาสมาชิกทั้ง 25 คนของคณะกรรมาธิการยุโรป (european commission) ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางยุโรปได้นำนโยบายการเงินแบบไม่เป็นทางการมาใช้ เพื่อรับมือกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงและผลข้างเคียงของนโยบายเหล่านี้ก็ค่อยๆชัดเจนมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของธุรกิจธนาคารและระบบการเงินทั้งหมด นางคริสติน ลาการ์ด กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งต่อไปในยูโรโซนจำเป็นต้องมีมาตรการที่รัดกุมมากกว่านี้ และสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจธนาคารให้แน่ใจว่า ตลาดหลักทรัพย์ในยุโรปยังคงมีเสถียรภาพ และยังมีมาตราการทางการคลังรองรับที่เพียงพอ ซี่งจะเป็นเครื่องมือในการทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพและสร้างรากฐานสำหรับการพัฒนาและความปลอดภัยในระบบการเงิน โดยตลาดยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการของธนาคารกลางยุโรปเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจยูโรโซนซึ่งได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

เนื่องจากวันเวลาเข้าใกล้เส้นตาย Brexit คาดว่าจะมีความผันผวนอย่างมากในตลาดเงินปอนด์และยูโร WikiFX จะติดตามข้อมูลการตลาดอย่างใกล้ชิดและนำรายงานข่าวที่แม่นยำ สำหรับตลาดสกุลเงินเพิ่มเติมคุณสามารถตรวจสอบข่าวด่วนที่แอป WikiFX เพื่อรับข่าวแบบเรียลไทม์