简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ขณะนี้ ทั่วโลกจับตาเรื่องสุขภาพของ “คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือ หลังมีกระแสข่าวว่าเขาป่วยหนัก แม้ยังไม่มีการยืนยันว่า “จริงหรือไม่” แต่หากย้อนดูประวัติศาสตร์ของโสมแดงจะพบว่า เรื่องสุขภาพของผู้นำตระกูลคิม มักเป็นข่าวใหญ่ตั้งแต่รุ่นปู่จนถึงปัจจุบัน
กระแสข่าวล่าสุดเกี่ยวกับสุขภาพของ คิม จอง อึนเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ เมื่อทางการสหรัฐเผยว่า รู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับสุขภาพของคิม ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน หลังได้รับข่าวกรองว่าเขาอยู่ในอาการโคม่าหลังเข้ารับการผ่าตัดเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด
ขณะที่เพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ ที่มักรู้ข่าววงในเกาหลีเหนือก่อนใครเพื่อน โต้กระแสข่าวนี้ว่า “ไม่พบสัญญาณผิดปกติ”เกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ โดยเขาเพิ่งปรากฏตัวต่อสาธารณชนเมื่อเร็ว ๆ นี้ และยังปฏิบัติภารกิจตามปกติในพื้นที่ชนบทของประเทศ
การสูบบุหรี่จัด สรีระที่อ้วนกลม และอาการป่วยลึกลับกลายเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่“คิม อิล ซุง”ผู้ก่อตั้งประเทศ ถึงบุตรชายของเขา “คิม จอง อิล” จนถึงรุ่นหลาน คือ “คิม จอง อึน”ผู้นำโสมแดงคนปัจจุบัน จนทำให้เกิดกระแสข่าวเกี่ยวกับการรักษาอาการป่วยและโรคประจำตัวของทั้ง 3 คนมานับครั้งไม่ถ้วน
ที่สำคัญ ปัญหาสุขภาพที่แท้จริงของผู้นำเกาหลีเหนือ 3 รุ่น มีเพียงไม่กี่คนที่ล่วงรู้คือ กลุ่มบริวารใกล้ชิดที่พวกเขาไว้วางใจมากที่สุดขณะที่โลกภายนอกทำได้เพียงสงสัยและคาดเดาไปต่าง ๆ นานา
และลำดับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ เป็นรายงานข่าวส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความกังวลเรื่องสุขภาพของผู้นำตระกูลคิมตั้งแต่รุ่นปู่ถึงหลาน
คิม อิล ซุง (2455-2537)
หนึ่งในปัญหาสุขภาพที่น่ากังวลมากที่สุดสำหรับบุรุษที่ชาวเกาหลีเหนือยกย่องเทิดทูนเป็น “ประธานาธิบดีตลอดกาล”คือ “ก้อนเนื้อขนาดเกือบเท่าลูกเทนนิส”บริเวณหลังคอ ซึ่งปรากฏบนภาพถ่ายของสื่อต่างชาติช่วงที่เขาออกเยือนต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี
แน่นอนว่า สื่อกระบอกเสียงของเกาหลีเหนือ ไม่เคยเปิดเผยภาพนั้นให้ประชาชนในประเทศได้เห็น
แม้มีการยืนยันว่า คิม รุ่นปู่ เสียชีวิตเมื่อปี 2537 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวขณะอายุ 82 ปีแต่ก่อนหน้านั้นในช่วงทศวรรษที่ 80มีกระแสข่าวว่าเขาเสียชีวิตด้วยสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ ข้อความจากเกาหลีเหนือผ่านเสียงตามสายที่เขตปลอดอาวุธที่ติดกับพรมแดนเกาหลีใต้ระบุว่า เขาถูกลอบสังหาร ทำให้รายงานข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือกระจายไปทั่วโลก
แต่ 2 วันหลังจากนั้น สื่อทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพของ คิมในสภาพแข็งแรงดีที่สนามบินเปียงยาง เพื่อพบปะกับผู้แทนจากมองโกเลีย
คิม จอง อิล (2485-2554)
บุรุษผู้ได้รับสมญานามจากสื่อกระบอกเสียงว่า “ผู้นำอันเป็นที่รัก”เสียชีวิตในปี 2554 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเช่นเดียวกับบิดาของเขา ขณะอายุ 70 ปี หลังจากใช้ชีวิตด้วยการดื่มสุราอย่างหนัก รับประทานอาหารมากเกินพอดี และสูบบุหรี่จัด มานานหลายสิบปี
หนึ่งในปัญหาสุขภาพที่น่ากังวลมากที่สุดสำหรับบุรุษที่ชาวเกาหลีเหนือยกย่องเทิดทูนเป็น “ประธานาธิบดีตลอดกาล”คือ “ก้อนเนื้อขนาดเกือบเท่าลูกเทนนิส”บริเวณหลังคอ ซึ่ง
ในช่วง 17 ปีที่อยู่ในอำนาจ คิม จอง อิล เคยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ซื้อบรั่นดีต่างประเทศ “เฮนเนสซี พาราดิส” (Hennessy Paradis)รายใหญ่ที่สุดในโลก และมีรายงานว่า เขาเคยส่งผู้ช่วยไปกรุงปักกิ่งของจีน เพื่อรับอาหารฟาสต์ฟู้ดชุดใหญ่ของ “แมคโดนัลด์”ด้วย
ชาวเกาหลีใต้หลายคนที่ได้พบกับคิมในปี 2543 ระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งแรกของผู้นำสองเกาหลีเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี เผยว่า เขาเป็นพวกโปรดปรานอาหารแพง ๆ และอมน้ำมัน
การงดปรากฏตัวต่อสาธารณะนานหลายสัปดาห์ประกอบกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคิม จอง อิล ทำให้เกิดกระแสข่าวลืออยู่หลายปีว่าเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
ต่อมาในปี 2550 คิมกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งด้วยรูปร่างที่ผอมลง และมีผมบางลงจากเดิมที่ไว้ผมดกหนาจนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ทำให้มีกระแสข่าวว่าเขาเพิ่งหายป่วยจากโรคหัวใจ
และในปี 2551 เขางดปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นเวลาพักใหญ่อีกครั้ง จนเกิดกระแสข่าวว่าป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ก่อนจะมีการยืนยันว่าคิมเสียชีวิตในอีก 3 ปีถัดมา
คิม จอง อึน (2527-ปัจจุบัน)
ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน วัย 36 ปี ไม่ไปปรากฏตัวในงานสำคัญของประเทศเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมาเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดปีที่ 108 ของปู่ของตน ทำให้เกิดกระแสข่าวล่าสุดเกี่ยวกับสุขภาพของเขา
คิม จอง อึนมีร่างกายอ้วนขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เข้าปกครองประเทศต่อจากบิดาในปี 2554 และมักสูบบุหรี่จัดขณะปรากฏตัวในที่สาธารณะอยู่เสมอเช่นเดียวกับช่วงนอกรอบการประชุมสุดยอดกับ โดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่สำนักข่าวกรองของเกาหลีใต้ เชื่อว่า คิมป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
อย่างไรก็ตาม การหายหน้าจากงานใหญ่ช่วงกลางเดือนนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของคิม ในปี 2557 เขาเคยไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนนาน 6 สัปดาห์ และกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมไม้เท้าและท่าเดินกระเผลก ในช่วงไปเยี่ยมชมอาคารที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ในประเทศ
สื่อทางการเกาหลีเหนือ รายงานถึงอาการของผู้นำอย่างตรงไปตรงมาซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนว่า ระหว่างหายหน้าหายตา ท่านประธานคิมประสบปัญหาบาดเจ็บทางกาย แต่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเกิดจากอะไร
ขณะที่ในต่างประเทศ สื่อหลายสำนักคาดว่า คิมป่วยเป็นโรคเก๊าท์จากการรับประทานอาหารมากเกินไป และมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจนเกือบเท่ากับบิดาและปู่ของตน
แม้จนถึงขณะนี้ คิม จอง อึน ยังไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ ท่ามกลางกระแสข่าวไม่สู้ดีเกี่ยวกับสุขภาพของเขา แต่ล่าสุด สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการ รายงานยืนยันเมื่อวันพุธ (22 เม.ย.) ว่า ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้มีอักษรสาส์นขอบคุณถึงประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย หลังจากอีกฝ่ายส่งอักษรสาส์นถึงเกาหลีเหนือในสัปดาห์ก่อนเนื่องในวาระครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 108 ของ คิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศ
รายงานดังกล่าวของสื่อโสมแดงถือเป็นการส่งสัญญาณว่า“คิม จอง อึน” ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
"เกาหลีเหนือ" ทำการทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ ส่งสัญญาณถึงโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ด้านสหรัฐมองเป็นกิจกรรมการทหารปกติ
รัฐมนตรีคลังมาเลเซียแถลง การตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ทางการทูตของเกาหลีเหนือไม่กระทบเศรษฐกิจมาเลเซีย
"กูเกิล" เผย เกาหลีเหนือส่งแฮกเกอร์ โจมตีทีมวิจัยด้านความปลอดภัยของสื่อโซเชียล โดยการสร้างบล็อก โปรไฟล์ทวิตเตอร์ อีเมล์และบัญชีลิงค์อินเทเลแกรม แฝงเข้าไปสอดแนม
"เกาหลีเหนือ" จัดสวนสนามกองทัพ เปิดตัวขีปนาวุธรุ่นใหม่ อ้างว่าทรงพลังที่สุดในโลก เกิดขึ้นก่อน "โจ ไบเดน" เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ