简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:กราฟยูโรเทียบดอลลาร์ปรับฐานมานานเกินพอแล้ว ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมากราฟค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้นอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่กับการวิ่งในกรอบแคบๆ ก่อนหน้านี้ทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายออกสลับกันอยู่ตลอดจนกระทั่งสถานการณ์การแพร่ระบาดในยุโรปเริ่มแย่ลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ขาขึ้นของยูโรเทียบดอลลาร์ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
กราฟยูโรเทียบดอลลาร์ปรับฐานมานานเกินพอแล้ว ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมากราฟค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้นอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่กับการวิ่งในกรอบแคบๆ ก่อนหน้านี้ทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายออกสลับกันอยู่ตลอดจนกระทั่งสถานการณ์การแพร่ระบาดในยุโรปเริ่มแย่ลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ขาขึ้นของยูโรเทียบดอลลาร์ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
1. การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่สองทั่วทั้งยุโรป
มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ถูกพบในยุโรปทุกวัน สร้างความกังวลให้กับยุโรปว่าอาจต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากตั้งแต่ต้นปี 2021 ล่าสุดเมื่อวันพุธยอดผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศสพึ่งขึ้นไปสร้างสถิติใหม่ที่ 18,746 รายภายในวันเดียวในขณะที่สเปนพบยอดผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ยอยู่ที่เกือบ 10,000 คนต่อวัน เมื่อย้อนกลับไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในการแพร่ระบาดรอบแรกของเดือนมีนาคมพบว่าตอนนั้นฝรั่งเศสมียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดต่อวันอยู่ที่ 7,578 คนในขณะที่สเปนมี 9,159 คน ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหภาพยุโรป (ECDP) เผยว่ามีเพียงสี่ประเทศในยุโรปเท่านั้นที่ยังสามารถกดยอดผู้ติดเชื้อใหม่ให้อยู่ที่ระดับ 20 รายเอาไว้ได้
การแพร่ระบาดรอบที่สองกำลังเกิดขึ้นไปทั่วยุโรป เยอรมันรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อใหม่ 4,000 รายภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง ในอิตาลีพบผู้ติดเชื้อใหม่ 3,678 รายซึ่งสูงที่สุดในรอบห้าเดือน หลายประเทศในยุโรปออกมาตรการควบคุมเชื้อไวรัสใหม่ กรุงปารีสยกระดับเตือนภัยขึ้นถึงขั้นสูงสุด สเปนมีมาตรการจำกัดเวลาปิดร้านอาหารให้เช้าลงและจำกัดการเดินทางเข้าออกเมือง เยอรมันประกาศเคอร์ฟิว การสวมใส่หน้ากากอนามัยออกจากบ้านกลายเป็นสิ่งที่ต้องทำตามกฎหมายในอิตาลี เบลเยี่ยมสั่งปิดบาร์และร้านอาหารเป็นเวลาหนึ่งเดือน กรมสุขภาพของไอร์แลนด์แนะนำรัฐบาลให้ปรับมาตรการคุมเข้มของรัฐขึ้นเป็นระดับสูงสุด
2. การล็อกดาวน์บางส่วนยิ่งซ้ำเติมการถดถอยทางเศรษฐกิจ
จากข้อมูลยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นในหัวข้อที่แล้ว นำไปสู่การปิดล็อกเมืองบางส่วนซึ่งมาตรการนี้คือการทำลายการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนอย่างจำใจ นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดการณ์ไว้ว่าในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาและช่วงครึ่งหลังของปีจะเป็นเวลาที่เศรษฐกิจในยูโรโซนได้ฟื้นตัว แต่สำหรับตอนนี้ คงต้องใช้คำว่าคงเป็นเรื่องโชคดีมากหากยุโรปสามารถรอดจากการถดถอยทางเศรษฐกิจรอบสองได้ ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจในเดือนกันยายนทำให้เราได้เห็นตัวเลขการเติบโตที่เริ่มชะลอตัวลงแล้ว แต่เมื่อตัวเลขของเดือนนี้ประกาศในเดือนถัดไป ตลาดจะได้เห็นจริงๆ ว่ามาตรการควบคุมโรคชุดใหม่ได้ทำร้ายเศรษฐกิจยุโรปขนาดไหน
ในไตรมาสที่สองตัวเลข GDP ของยูโรโซนหดตัวลงไป 11.8% ซึ่งเชื่อว่าครั้งนี้เราจะยังไม่ได้เห็นตัวเลขกดตัวลงไปมากขนาดนั้นเพราะรัฐบาลของประเทศในยุโรปกำลังทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบ แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะได้เห็นไตรมาสที่สี่เป็นไตรมาสแห่งการหดตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป ผลกระทบที่มีต่อสกุลเงินยูโรจะเห็นชัดอย่างที่เคยเห็นมาแล้วในเดือนมีนาคมจนกราฟยูโรเทียบดอลลาร์ต้องลงจากจุดสูงสุด 1.15 ไปยังจุดต่ำสุด 1.0637 ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ความผันผวนในตลาดหุ้นยุโรปจะสะท้อนความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ยุโรปต้องเผชิญได้เป็นอย่างดี
3. การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินจากECB
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมีความเห็นตรงกันว่าธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) มีความเป็นไปได้ที่จะอัดฉีดเงินเพิ่มเข้าไปในโครงการซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินเพื่อรับมือกับโรคระบาด (PEPP) อีกภายในสิ้นปีนี้ หากรัฐบาลของประเทศในยูโรโซนไม่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ แม้จะมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อแต่การผ่อนคลายการเงินนโยบายตอนนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น
ตอนนี้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังกำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่สูงขึ้นทุกวัน ECB จึงไม่มีทางเลือกมากนอกจากต้องเพิ่มเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจอีก ความเป็นไปได้ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นแต่หากต้องเลือกระหว่างลดอัตราดอกเบี้ยกับเพิ่มเงินให้กับ PEPP ดูเหมือนว่าทางเลือกอย่างหลังจะมีประโยชน์มากกว่า ล่าสุดสัปดาห์นี้นางคริสตีน ลาการ์ด ประธาน ECB ได้แถลงออกมาแล้วว่าพร้อมที่จะอัดฉีดเงินกระตุ้นรอบใหม่พร้อมทั้งบอกอีกว่า ECB กำลังเตรียมตัวที่จะใช้เครื่องมือทางการเงินทุกอย่างให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
4. ความไม่แน่นอนทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สุดท้าย พฤติกรรมราคาในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการฟื้นตัวกลับมาทำงานได้ภายในเวลาเพียงสามวันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินดอลลาร์และต้องการถือครองมากขึ้น ความเสี่ยงที่นักลงทุนยังสามารถยอมรับได้และผลงานในตลาดหุ้นยุโรปคือสิ่งเดียวที่ทำให้สกุลเงินยูโรยังไม่ล้มลงในตอนนี้ ข่าวดีทุกอย่างที่เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีแต่ทำให้ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแม้ว่าการเลือกตั้งสหรัฐฯ จะใกล้เข้ามาทุกที ในช่วงสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง นักลงทุนอาจเลือกที่จะถอนเงินออกจากตลาดก่อนซึ่งนั่นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้กราฟยูโรเทียบดอลลาร์ปรับตัวลดลง
วิเคราะห์โดย คุณ Kathy Lien
สงสัยไหมว่าเราจะตามข่าวหรือบทวิเคราะห์พวกนี้จากไหนบนแอปพลิเคชันWikiFX จะมีอัปเดทบทวิเคราะห์แบบมหาศาลให้อ่านและยังมีแจ้งเตือนโบรกเกอร์เถื่อนในแต่ละสัปดาห์ที่เจ๋งที่สุดคือต่อจากนี้จะมีแจ้งเตือนค่าเงินหลักที่จะผันผวนแรงในวัดถัดไปถ้าโหลแอปตอนนี้เราจะได้เปรียบกว่าเทรดเดอร์คนอื่น
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
เคล็ดลับการทำกำไรจาก Forex
แนะนำ 10 Payment Gateway
รีวิวโบรกเกอร์ Ultima Markets
บทวิเคราะห์ทองคำ
IC Markets Global
GO MARKETS
EC Markets
STARTRADER
ATFX
Tickmill
IC Markets Global
GO MARKETS
EC Markets
STARTRADER
ATFX
Tickmill
IC Markets Global
GO MARKETS
EC Markets
STARTRADER
ATFX
Tickmill
IC Markets Global
GO MARKETS
EC Markets
STARTRADER
ATFX
Tickmill