简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วิเคราะห์การเลือกตั้งสหรัฐ ปี 2020 หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง กับไบเดนชนะการเลือกตั้ง สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเงินของสหรัฐจะเป็นอย่างไร? การลงทุนจะปรับเปลี่ยนไปอย่างไร?
ในบทความก่อน ผมได้ชวนคุยถึงกรณีที่เป็นไปได้ และแชร์มุมมองส่วนตัวเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจที่คาดว่าเกิดขึ้นจากผลการเลือกตั้งแต่ละรูปแบบ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เดือนนี้ผมจะพยากรณ์กันต่อว่าสินทรัพย์ต่างๆ จะตอบรับกับผลการเลือกตั้งแต่ละแบบอย่างไร
กรณีแรก ดูจากผลโพลล์ในปัจจุบันก่อน ซึ่งตอนนี้ผลที่คาดว่าจะเกิดคือ กรณี DDD ซึ่งผมมองว่า “บวก” กับหุ้นทั่วโลก แต่ “ลบ” กับบอนด์ระยะยาวมากที่สุด
อ้างอิงจาก Simulation 40,000 รูปแบบของ website FiveThirtyEight พบว่ามีถึง 78% ที่โจ ไบเดน สามารถชนะทรัมป์ได้ เช่นเดียวกับความจริงที่ฝั่งเดโมแครตกำลังครองเสียงข้างมากในสภาล่าง และมีโอกาสที่จะชนะในสภาสูง ทำให้ต้องคุยกรณีนี้ก่อน
DDD จะทำให้ตลาดต้องเตรียมตัวกับ “การขึ้นภาษี” และ “การกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ”
ทั้งสองประเด็นทำให้รายได้ของบริษัทจดทะเบียนผันผวน นักลงทุนอาจต้องกระจายการลงทุนไปนอกสหรัฐ เพื่อหลบผลกระทบเชิงลบที่จะเกิดขึ้นในระยะสั้น ตลาดหุ้นทั่วโลกจึงมีโอกาสให้ผลตอบแทนดีกว่าสหรัฐ
เมื่อเงินไหลออก ดอลลาร์ก็จะอ่อนค่า เงินเฟ้อสูงขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัว เมื่อนั้นนักลงทุนก็จะออกจากหลุมหลบภัยอย่างบอนด์ระยะยาว มาสู่การลงทุนปกติ
ส่วนดีที่สุดกับการลงทุน ผมมองว่าคือ DRD หรือแค่เปลี่ยนประธานาธิบดีเป็น “โจ ไบเดน” แต่สภายังเหมือนเดิม
เพราะจุดอ่อนด้านการเมืองของ DRD สามารถทำให้การผ่านนโยบายใหญ่ในสภาอย่าง “การขึ้นภาษี” กลายเป็นเรื่องยาก บรรดาแรงกดดันบนหุ้นสหรัฐจึงน่าจะน้อยลงทันที
นอกจากนี้แนวโน้มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะต้องกลับทิศด้วย เพราะถ้าการคลังเกิดติดขัดแต่เศรษฐกิจไม่ฟื้น ธนาคารกลางสหรัฐก็จะถูกกดดันให้ต้องงัดนโยบายการเงินใหม่ๆ ออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจแทน บอนด์หรือทองคำจึงจะมีโอกาสขึ้นต่อได้ในกรณีนี้ กดดันให้เงินดอลลาร์ กลายเป็นสินทรัพย์ที่ต้องระวังมากที่สุด จนอาจเป็นเหตุให้เงินบาทแข็งค่าได้มากที่สุดด้วย
ส่วนกรณีเสี่ยง ตอนนี้คือ DRR หรือ RRR การที่ทรัมป์และพรรคริพับลิกัน “ฟื้นไข้” หรือสามารถพลิกกลับมาชนะ
เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ตลาดคงประหลาดใจที่สุด เพราะหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ติดโควิด-19 ความน่าจะเป็นที่จะกลับมาได้ก็ยิ่งน้อยลง ทำให้หลายคนเลิกระวังทั้งกรณี DRR และ RRR ไปแล้ว
ดังนั้นถ้าฟื้นคืนชีพ ไม่ใช่แค่ผลจากนโยบายเศรษฐกิจในอนาคตที่จะกระทบตลาด แต่อาจมีการปรับพอร์ตของนักลงทุนทั่วโลกเข้ามาผสมโรง
กรณีนี้ ความผันผวนจะสูงขึ้น กดดันให้ตลาดกลับไปปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) น่ากลัวที่สุดคือ หุ้นโลกที่อาจกลับไปเป็นจุดอ่อน ทั้งจากปัญหาโควิดและสงครามการค้า ขณะที่หุ้นสหรัฐต้องประคองตัวให้ได้ ด้วยแรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี ส่วนเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่ากลับได้จากตลาดที่ปิดรับความเสี่ยง
นอกจากนี้ก็อาจมีกรณีที่ควรคิดต่อว่าถ้าการเลือกตั้ง “ไม่มีข้อสรุป” ในระยะสั้น ผลกับตลาดการเงินจะเป็นอย่างไร
เพราะครั้งนี้เป็นช่วงที่ไม่ปกติจึงมีการใช้ “จดหมาย” ในการเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่ แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ออกโรงโจมตีการเลือกตั้งนอกคูหาว่าเป็นหนทางสู่การทุจริตและอาจไม่ยอมรับถ้าตัวเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ในอดีต ใกล้เคียงที่สุดคือช่วงการเลือกตั้งปี 2000 ระหว่างนายจอร์จ บุช และนายอัล กอร์ ที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ทันที
ผลที่ตามมาคือเงินดอลลาร์แข็งค่าก่อนในช่วงสองสัปดาห์แรกราว 2% แต่อ่อนค่าลง 4-6% ในช่วงสามเดือนหลังจากนั้น ส่วนเงินบาทก็แข็งค่าจาก 43.6 บาทต่อดอลลาร์ในวันเลือกตั้ง มาที่ 42.6 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2001
หมายความว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นก็อาจต้องระวังความผันผวนที่สูง และทิศทางที่ไม่แน่นอนระยะสั้นเพิ่มเติม
ถึงตรงนี้ คนไทยคงทำได้แค่ลุ้นกันต่อว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาแบบไหน แต่อย่าลืม ทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้บ้าง จะได้ไม่ต้องรับแรงกระแทกจากเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ทั้งหมดครับ
บทความโดย โดย ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ รู้ทันโลกการเงิน X Bangkokbiznews
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
สภาสหรัฐเริ่มนับคะแนนคณะผู้เลือกตั้งอีกครั้ง พร้อมยืนยันชัยชนะ"ไบเดน"
“รัฐจอร์เจีย” ยุตินับคะแนนเลือกตั้ง ส.ว.ชั่วคราว คาดเริ่มนับใหม่ จะรู้ผลไม่เกินเที่ยงคืนวันนี้
ผู้นำ "จีน-รัสเซีย" ยังสงวนท่าที ไม่ออกมาแสดงความยินดีกับ "โจ ไบเดน" อ้างรอผลเลือกตั้งสหรัฐอย่างเป็นทางการ "โยชิฮิเดะ ซูกะ" เล็งยกหูแสดงความยินดีไบเดนพรุ่งนี้ กระชับสัมพันธ์ญี่ปุ่น-สหรัฐ
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ยังไม่ยอมรับชัยชนะของนายโจ ไบเดน
STARTRADER
FBS
XM
GO MARKETS
HFM
Vantage
STARTRADER
FBS
XM
GO MARKETS
HFM
Vantage
STARTRADER
FBS
XM
GO MARKETS
HFM
Vantage
STARTRADER
FBS
XM
GO MARKETS
HFM
Vantage