简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ธปท.ออก 3มาตรการหวังลดแรงกดดันค่าเงินบาท เอื้อเงินทุนเคลื่อนย้ายสมดุลมากขึ้น โดยเปิดให้คนไทยฝากเงินในบัญชีFCDเสรี ปรับเกณฑ์ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เพิ่มวงเงินรายย่อยลงทุนตรงเป็น5ล้านดอลฯ ให้ลงทะเบียนแสดงตนซื้อขายตราสารหนี้ ทยอยคลอดสิ้นพ.ย.นี้
นางสาววชิรา อารมณ์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ปัจจัยภายนอกทั้งผลของการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐ และความคืบหน้าของการพัฒนาวัดชีนป้องกันโควิด-19 ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจโลกมากขึ้น
จึงกลับมาลงทุนในสินทรัพย์ของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งไทย ส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเร็ว ซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังปราะบาง
ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเข้าดูแลตลาดอัตราแลกเปลี่ยนต่อเนื่องเพื่อลดความผันผวนของเงินบาท นอกจากนี้ เพื่อช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้กับตลาดอัตราแลกเปลี่ยนช่วยให้เงินทุนคลื่อนย้ายมีความสมดุลมากขึ้น ธปท. จึงเห็นควรดำเนินมาตรการ ดังนี้
เปิดให้คนไทยฝากเงินตราต่างประเทศได้เสรี (Foreign Curency Deposit : FCD) และโอนเงินระหว่างบัญชี FCD ของคนไทยได้เสรี จะช่วยให้ผู้ส่งออกบริหารจัดการเงินตราต่างประเทศและบริหารความเสี่ยงจากอัตราเปลี่ยนได้คล่องตัวมากขึ้น สามารถทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดต้นทุนการโอนเงินให้คนไทยสามารถกระจายความเสี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินตราต่างประเทศได้สะดวกขึ้น เช่น การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ และการซื้อขายทองคำเป็นสกุลเงินดอลลาร์ สรอ.
2. ปรับกฎเกณฑ์และกระบวนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ทั้งในมิติของวงเงินและผลิตภัณฑ์ที่ลงทุนได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับคนไทยและสนับสนุนให้มีการกระจายความเสี่ยงการลงทุนได้มากขึ้น
-เพิ่มวงเงินลหุนให้นักลงทุนรายย่อยลงทุนโดยตรงได้เป็น 5 ล้านดอลลาร์ สรอ. ต่อปีจากเดิม 200,00 ดอลสาร์ สรอ. ต่อ และไม่จำกัดวงเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประทศที่ลงทุนผ่านตัวกลางในประเทศ เช่นบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
-ไม่จำกัดวงเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประทศสำหรับนักลทุนภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
-เปิดให้มีการนำหลักทรัพย์ต่างประทศมาซื้อขายในไทยได้โดยไม่จำกัดวงเงิน เช่น กองทุนรวมดัชนี(ETF) ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ต่างประเทศได้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ค่าเงินบาท วันนี้ เปิดตลาดอ่อนค่าลง 0.27% เพิ่มขึ้น +0.090 ในช่วงเช้า อัตราแลกเปลี่ยนในขณะนี้อยู่ที่ 33.520 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องในพฤหัสบดี ล่าสุดในช่วงเช้า ปรับตัวขึ้นสูงถึง 33.97 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินบาท วันนี้อ่อนค่าสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี ในวันพุธช่วงเช้า โดยซื้อขายอยู่ที่ 33.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในระยะสั้นค่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่อง
บรรยากาศการซื้อขายเงินในตลาดการเงินไทยวันนี้ (14 กันยายน) เงินบาทเปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 32.89 บาทต่อดอลลาร์ มีแนวโน้มอ่อนค่า โดยอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร
XM
HFM
Vantage
ATFX
Tickmill
STARTRADER
XM
HFM
Vantage
ATFX
Tickmill
STARTRADER
XM
HFM
Vantage
ATFX
Tickmill
STARTRADER
XM
HFM
Vantage
ATFX
Tickmill
STARTRADER