简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:จับตาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระหว่าง "สหรัฐ" กับ "จีน" หลังจากสหรัฐเพิ่งผ่านการเลือกตั้งครั้งสำคัญและได้ผู้นำคนใหม่คือ "โจ ไบเดน" ซึ่งจะมีส่วนสำคัญกับนโยบายด้านต่างๆ ทั้งสหรัฐและโลก โดยนับจากนี้อีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง?
เมื่อช่วงคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สื่อดังฝั่งสหรัฐอย่าง Washington Post เปิดเผยว่า คุณโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งใจจะกลับมาสู้กับนายโจ ไบเดนอีกครั้ง ในศึกเลือกตั้งปี 2024 เรื่องนี้จะทำให้นายโจ ไบเดน ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอยู่ไม่น้อย เพราะอะไร ผมจะพาไปดูนะครับ
ก่อนอื่น เราน่าจะเห็นภาพเดียวกันนะครับว่า หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนกลายเป็นวิกฤติการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกทุนนิยมสมัยใหม่ครั้งนี้ ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของห่วงโซ่อุปทานโลก (Global Supply Chain) ที่ทั้งโลกมีความเชื่อมโยงกัน ให้ลดขนาดของความเชื่อมโยง จาก Globalization เป็น Regionalization ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนหนึ่งก็เพราะนโยบาย American First ภายใต้ทำเนียบขาวในสมัยของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จ้องโจมตีคู่แข่งทางเศรษฐกิจแบบตรงไปตรงมา ทำให้ประเทศที่มีเศรษฐกิจยึดโยงหรือผูกกันกับสหรัฐมากกว่า ก็กลับมาเอียงข้างความสัมพันธ์ทางการค้า และอ่อนข้อให้สหรัฐมากขึ้น และดูเหมือนจีนเอง ก็ไม่ได้เดินหมากกดดันประเทศคู่ค้าของตัวเองตรงๆเลย เพราะนั่นไม่ใช่วิถีของจีนแต่ไหนแต่ไรมาอยู่แล้ว
แต่นายโจ ไบเดน เองได้ให้คำมั่นสัญญาถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายที่ชัดเจน โดยการแสดงเจตนาที่จะนำสหรัฐกลับเข้าร่วมความตกลงปารีส (Paris Agreement) เพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ในวันแรกที่เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ รวมถึงการกลับไปร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) สวมบทบาทผู้นำโลกในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เรียกความเชื่อมั่นในฐานะของมหาอำนาจกลับมาอีกครั้ง
การจะแก้ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรือ Climate Change นั่น จะมีเพียงแค่สหรัฐเพียงประเทศเดียวไม่ได้เลย และต้องการจีนในการร่วมสนับสนุนด้วยเป็นอย่างมาก เพราะสหรัฐและจีน นำเข้าพลังงานรวมกันเป็นปริมาณมากกว่า 50% ของโลก ตลอดจนเป็นผู้ปล่อยไอเสียก๊าซเรือนกระจกกว่า 30% ของโลก
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
IC Markets Global
FP Markets
VT Markets
HFM
EC Markets
Pepperstone
IC Markets Global
FP Markets
VT Markets
HFM
EC Markets
Pepperstone
IC Markets Global
FP Markets
VT Markets
HFM
EC Markets
Pepperstone
IC Markets Global
FP Markets
VT Markets
HFM
EC Markets
Pepperstone