简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชี 10 ประเทศในบัญชีประเทศต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในฐานะที่อาจบิดเบือนค่าเงิน หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย
กระทรวงคลังสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานเรื่องการบิดเบือนค่าเงินเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และเวียดนามเข้าข่ายบิดเบือนแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างชัดเจน โดยเวียดนามมีความพยายามสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในการค้าระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
ส่วนประเทศจีนนั้น กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้หยุดสอดส่องเรื่องการบิดเบือนค่าเงินในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ยังคงไว้ในรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง และเรียกร้องให้ประเทศจีนยกระดับความโปร่งใสด้านการบริหารจัดการค่าเงิน
ขณะที่ประเทศไทยไทยติดกลุ่ม 3 ประเทศที่ถูกเพิ่มในบัญชีเฝ้าจับตาที่ต้องสงสัยว่าใช้มาตรการลดค่าเงินตราเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และนอกจากไทยแล้วยังมีไต้หวัน, อินเดีย, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เยอรมนี, อิตาลี, สิงคโปร์ และมาเลเซีย
อ้างอิงจากสำนักข่าว Reuters เกณฑ์ที่สหรัฐฯ ใช้วัดว่าประเทศใดบิดเบือนค่าเงินคือ ประเทศนั้นต้องได้เปรียบดุลการค้าทวิภาคีต่อสหรัฐฯ อย่างน้อย 20,000 ล้านดอลลาร์, มีการแทรกแซงการปริวรรตเงินตราเกิน 2% ของ GDP และเกินดุลบัญชีเดินสะพัดทั่วโลกมากกว่า 2% ของ GDP
นี่นับเป็นครั้งแรกของสวิตเซอร์แลนด์และเวียดนามที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บิดเบือนค่าเงิน อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตาม Criteria พบว่า ทั้งสองประเทศต่างเข้าข่ายทั้ง 3 Criteria ขณะที่จีนนั้นเข้าข่ายเพียง 1 ใน3 ของ Criteria
โดยค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้น 3% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงระยะเวลา 12 เดือน ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นการแทรกแซงที่หนักที่สุด ซึ่งได้ข้อสรุปว่า การแทรกแซงของสวิสบางส่วนมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการปรับดุลการชำระเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กระทรวงคลังสหรัฐฯ ได้แนะนำให้ธนาคารกลางสวิสพิจารณามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณภายในประเทศ เพื่อช่วยสร้างความสมดุลระหว่างนโยบายการเงิน
ส่วนประเทศเวียดนามนั้น กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า มีการเกินดุลการค้าของเวียดนามกับสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยได้เรียกร้องให้เวียดนาม รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริหารจัดการค่าเงินของตนแข็งค่าขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาความไม่สมดุลภายนอก
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุเพิ่มว่า ทางการเวียดนามรายงานต่อสหรัฐฯ ว่าได้ซื้อเงินตราต่างประเทศสุทธิ 16.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ไตรมาส (ถึงเดือนมิถุนายน 2563) ซึ่งคิดเป็น 5.1% ของ GDP จึงเรียกร้องให้เวียดนามบริหารจัดการค่าเงินดองอย่างโปร่งใสมากขึ้น และการปรับปรุงเครื่องมือทางการเงินให้ทันสมัย เพื่อให้ประเทศพึ่งพาการแทรกแซงของสกุลเงิน
นอกจากนี้เวียดนามควรลดอุปสรรคทางการค้า เพื่อให้มีประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงตลาดเวียดนามได้
รู้ยังตอนนี้แอป WikiFX จะมีส่งแจ้งเตือน “แนวโน้มคู่เงินหลักในตลาด” ทุกวันตอนเช้า พร้อมแนะนำช่วงเวลาที่ควรออกออเดอร์ด้วยนะ ต้องดาวน์โหลดแอป WikiFX แล้วแหละ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ความกระหายความเสี่ยงของนักลงทุนแย่ลงในวันนี้เนื่องจาก ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเก้าวันทำการ ค่าเงินที่ลดลงพร้อมกันและผลตอบแทนของพันธบัตรยืนยันมุมมองของเราว่านักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
เทรดเดอร์ Forex คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าข่าวด้านเศรษฐกิจการเงินของประเทศที่เป็นเจ้าของสกุลเงิน มีความสำคัญต่อค่าเงินโดยตรง มันส่งผลให้ค่าเงินสูง-ต่ำ ตามตัวเลขต่าง ๆ ในข่าวได้นะ
ค่าเงินใดจะผันผวนแรงเพราะข่าวในวันนี้
ค่าเงินลีราร่วง 17% หลังปธน.ตุรกีปลดผู้ว่าแบงก์ชาติเหตุขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรับมือเงินเฟ้อสู่ระดับ 19%
EC Markets
Vantage
TMGM
ATFX
VT Markets
XM
EC Markets
Vantage
TMGM
ATFX
VT Markets
XM
EC Markets
Vantage
TMGM
ATFX
VT Markets
XM
EC Markets
Vantage
TMGM
ATFX
VT Markets
XM