简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บริษัทบริหารสินทรัพย์สหรัฐคาด ราคาบิทคอยน์พุ่งต่อเนื่อง และหากทุกบริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ใช้เงินสด 10% ลงทุนในบิทคอยน์ อาจดันราคาคริปโตยอดนิยมนี้ทะยานอีก 4 แสนดอลลาร์ หรือเกือบ 12 ล้านบาท
บรรดานักวิเคราะห์จาก “อาร์ค อินเวสท์” (Ark Invest) บริษัทบริหารสินทรัพย์ในนครนิวยอร์ก คาดการณ์ว่า หลังจาก “เทสลา” ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ลงทุนซื้อบิทคอยน์ 1,500 ล้านดอลลาร์เมื่อเร็วๆ นี้จะมีบริษัทเอกชนเข้าร่วมในตลาดคริปโตเคอเรนซี (เงินดิจิทัล) เพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้บิทคอยน์เป็น “ทางเลือกใหม่” แทนเงินสดในบัญชีงบดุลบริษัท'
“เราคาดว่าจะมีสถาบันต่าง ๆ เริ่มขยันเข้าสู่วงการบิทคอยน์และสินทรัพย์คริปโตอื่น ๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นบิทคอยน์” นางเคธี วูด นักวิเคราะห์ของอาร์ค อินเวสท์ เผยกับเว็บไซต์ยาฮู ไฟแนนซ์เมื่อเร็ว ๆ นี้
รายงาน “บิ๊ก ไอเดียส์” (Big Ideas) ประจำปี 2564 ของบริษัทอาร์ค อินเวสท์ ระบุว่า หากทุกบริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 กันเงินสด 1% ไปซื้อบิทคอยน์ ราคาบิทคอยน์จะเพิ่มขึ้นราว 40,000 ดอลลาร์ และหากบริษัทเหล่านี้กันเงินสด 10% ไปซื้อบิทคอยน์ ราคาคริปโตนี้จะพุ่งอีก 4 แสนดอลลาร์
การลงทุนในบิทคอยน์มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ของเทสลา คิดเป็นสัดส่วนราว 8% ของกระแสเงินสดของบริษัท
ข้อมูลจากเว็บไซต์คอยน์เดสก์ ระบุว่า ราคาบิทคอยน์ ณ เวลา 17.30 น.วันพุธ (10 ก.พ.) ตามเวลาไทย อยู่ที่ 47,087 ดอลลาร์ ปรับลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ที่กว่า 48,000 ดอลลาร์เมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร (9 ก.พ.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังเทสลาประกาศลงทุนบิทคอยน์
นอกจากนี้ นางวูดยกตัวอย่างถึงบริษัทสแควร์ (เอสคิว) และ ไมโครสตราทิจีส์ (เอ็มเอสทีอาร์) ที่เข้าสู่อุตสาหกรรมบิทคอยน์ไปก่อนหน้านี้ซึ่งช่วยดันราคาบิทคอยน์อย่างมาก และคาดว่าราคาจะทะยานสูงขึ้นอีกในปีนี้
“ขณะนี้ บิทคอยน์มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดยักษ์ใหญ่อย่างแอ๊ปเปิ้ลและอเมซอนในปัจจุบัน” นางวูดเสริม
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บิทคอยน์และทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีลักษณะและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยบิทคอยน์มีปริมาณจำกัด 21 ล้านเหรียญ ซึ่งสร้างความมั่นใจในการคาดการณ์มูลค่า ขณะที่ทองคำไม่มีปริมาณแน่นอนเนื่องจากเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถค้นพบเพิ่มเติมได้ ทั้งสองมีวิธีการเก็บรักษามูลค่าที่แตกต่างกัน บิทคอยน์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ปลอดภัย ขณะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์จับต้องได้ที่มีความเสี่ยงต่อการขโมย สำหรับความสะดวกในการเคลื่อนย้าย บิทคอยน์สามารถส่งไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทองคำต้องการการขนส่งทางกายภาพที่ยุ่งยาก ดังนั้นการเลือกลงทุนระหว่างบิทคอยน์และทองคำขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความเสี่ยงที่นักลงทุนพร้อมรับ โดยควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดกับตนเอง
ประกาศยุติสนับสนุนสเตเบิลคอยน์ USDC
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเทรด Forex
หลอกลงทุนทองคำ รับผลตอบแทนสูง เหยื่อนับร้อยสูญเงินกว่า 100 ล้านบาท
Pepperstone
GO MARKETS
FBS
STARTRADER
HFM
OANDA
Pepperstone
GO MARKETS
FBS
STARTRADER
HFM
OANDA
Pepperstone
GO MARKETS
FBS
STARTRADER
HFM
OANDA
Pepperstone
GO MARKETS
FBS
STARTRADER
HFM
OANDA