简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วันนี้ผมเองก็อยากหยิบประสบการณ์การทำเหมืองขุดบิทคอยน์ (ที่ไม่ได้ขุดบิทคอยน์จริงๆ) มาเล่าให้กับทุกคนฟังกันครับ รวมถึงว่าทำไมวันนี้ผมถึงไม่ได้ขุดมันแล้ว เกิดอะไรขึ้นบ้าง เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ในมุมมองของผมเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งในบทความนี้จะไม่ได้พูดถึง technique แต่อย่างไร แต่พูดถึงในมุมของ user ล้วนๆ เลยครับ ถ้าพร้อมแล้ว ลุยกันครับ!
แชร์ประสบการณ์ขุด Bitcoin โดยคุณ Akarapas Kiatsoemkhachorn
วันนี้ผมเองก็อยากหยิบประสบการณ์การทำเหมืองขุดบิทคอยน์ (ที่ไม่ได้ขุดบิทคอยน์จริงๆ) มาเล่าให้กับทุกคนฟังกันครับ รวมถึงว่าทำไมวันนี้ผมถึงไม่ได้ขุดมันแล้ว เกิดอะไรขึ้นบ้าง เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ในมุมมองของผมเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งในบทความนี้จะไม่ได้พูดถึง technique แต่อย่างไร แต่พูดถึงในมุมของ user ล้วนๆ เลยครับ ถ้าพร้อมแล้ว ลุยกันครับ!
ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงปี 2015–2016 สมัยเรียน ผมได้รู้จักกับเพื่อนคนนึง ที่ออมเงินด้วยการซื้อ bitcoin และเหรียญ altcoin (เหรียญ digital อื่นๆ ที่ไม่ใช่ bitcoin ซึ่งต่อไปผมจะเรียกว่า crypto หรือ altcoin) ทุกเดือนด้วยเงินเดือนละ 1000–2000 ซึ่งผมก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเค้าประมาณนึง แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มลงทุนอะไร เพราะรู้สึกว่าตอนนั้นเรายังไม่รู้จักดีมากพอ รวมถึงข่าวต่างๆ ที่มักจะพูดถึงคริปโตในเชิงลบ ทำให้ยังไม่มีความมั่นใจเท่าไหร่ รวมถึงไม่มีเงินด้วย
ผ่านมาอีกสัก 1 ปี อยู่มาวันนึงระหว่างนั่งเล่นเกมกับเพื่อน ตอนนั้นผมใช้ Teamspeak คุยผ่านไมค์กัน ก็ได้ยินในกลุ่มคุยกันถึงเรื่องของการขุดเหรียญคริปโตโดยใช้การ์ดจอ ในตอนนั้นผมได้ยินมาว่า ลงทุนประมาณ 60,000 บาท ได้เงินเดือนละ 10,000 ค่าไฟ 2,000–3,000 แปลว่า เดือนนึงเฉลี่ยแล้วเราจะกำไร 7,000 +- นิดหน่อย โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย (ที่ว่าของคำว่า เสียบปลั๊ก รับตังค์) แปลว่า 4–6 เดือนเราสามารถ break even ได้แน่ๆ รวมถึงเรายังมี asset ในมือที่มีโอกาสขายได้อีก เพราะมันก็คือคอมพิวเตอร์เครื่องนึง ซึ่งบอกเลยครับว่าลงทุนกับอะไรที่ break even ได้ภายในปีนึงเนี่ยไม่ธรรมดาแล้วครับในความคิดตอนนั้น
ในการ์ดขุดคริปโตเนี่ยในช่วงนั้นเค้านิยมขุดเหรียญที่ชื่อ Ethereum : ETH กับ ZCash : ZEC กันครับ โดยเครื่องที่ใช้ขุดก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์ธรรมดานี่แหละ ที่ใส่การ์ดจอ (ชิปประมวลผลกราฟริค) หลายๆใบ เพื่อใช้ในการขุดกัน โดยวิธีการขุดก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเลือกอัลกอริทึม(เหรียญ) โดยที่เราต้องสมัครกระเป๋า(Wallet) เอาไว้ ในยุคนั้น bx.in.th ก็เป็นที่นิยมมากๆ จากนั้นก็รันโปรแกรมขุดทิ้งไว้ และคอยมอนิเตอร์เผื่อว่ามันค้าง ไฟตก หรือร้อนเกินไป ก็มารีสตาร์ทมัน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นครับ
(หน้าตาเครื่องขุดคริปโต โดยใช้การ์ดจอ)
เริ่มต้นเข้าวงการผมเองก็ไม่รอช้าครับในตอนนั้นโทรคุยกับเพื่อน ให้เพื่อนพาไปซื้อทันที เรียกว่าคุยเช้าไปบ่ายเลย ด้วยความที่อยากรู้และอยากรวย ตอนนั้นที่ห้างพาราเดียม ก็เรียกว่าเป็นแหล่งขายเครื่องขุดเลยครับ พอไปถึงก็พบว่ามันกำลังจะขาดตลาดแล้ว… ซึ่งก็ตามหาอุปกรณ์จนสามารถประกอบได้เป็น 1 เครื่องพอดี แม้ว่าอาจจะได้ Lot ที่ของไม่ดีเท่าไหร่ (ได้การ์ดจอที่มี แรมจากยี่ห้อไม่ค่อยโอเค ทำให้ overclock หรือ OC ได้น้อย) แต่ก็ทำใจครับ ไม่เป็นไร.. ขอให้ทำเงินได้ก็พอ 555
รวมอุปกรณ์อื่นๆที่ซื้อมาควบคู่ด้วย เช่น ปลั๊กไฟกันไฟตก , พัดลมอุสาหกรรม 1 ตัว , สาย Adapter สำหรับต่อการ์ดจอ และอื่นๆ เบ็ดเสร็จก็จ่ายไปประมาณ 70,000 ได้ครับ ก็หิ้วใส่รถกลับมาบ้าน ท่ามกลางความงุนงงของคนในครอบครัวที่มามุงดูกันว่า ไอ้นี่มันเครื่องอะไร? เอาจริงๆตอนนั้นก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงครับก็ได้แต่ตอบไปสั้นๆว่า เครื่องขุดเงิน 5555 ก็เรียกได้ว่าสร้างความกังวลให้กับทุกคน ว่าผมจะถูกหลอกมั้ยไปไม่ใช่น้อยเหมือนกัน หุหุ
ภาพเครื่องขุดผมในช่วงเดือนแรกๆ ก็ตั้งมันไว้ในบ้านแบบนี้แหละครับ
รายได้เดือนแรก…นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้มาก รวมถึงผมคือ ไอ้เครื่องนี่มันสร้างเงินได้จริงๆหรอ? แล้ววิธีการมันยังไง แล้วสรุปมันได้เงินจริงๆมั้ย ซึ่งหลายคนคงรู้อยู่แล้วว่า “มันได้แน่นอน”! ก่อนที่พูดถึงตรงนั้น ผมขอพูดถึงวิธีการของมันก่อนละกันครับ
หลักการของมันคือ เจ้าเครื่องนี่จะทำการประมวลผล transaction การโอนเงินไปมาในระบบแล้วเราจะได้รางวัลเป็นผลตอบแทน เนื่องจากมันเป็นการประมวลผลอย่างหนัก เราเลยเรียกมันว่าการขุด และเนื่องจากมันมีคนขุดกันเยอะมากเราเลยมีสิ่งที่เรียกว่าพูล ที่ให้นักขุดทุกคนเข้ามาช่วยกันขุด และแบ่งเงินกันนั่นเองครับ สิ่งที่เราต้องทำก็แค่
เปิดเครื่องทิ้งไว้ > ได้เงินเป็นสกุลที่เราขุด > เงินโอนกลับมายังกระเป๋าเรา > เทรด/ขายเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินบาท > ถอนเงิน > ระบบจะโอนเงินเข้าบัญชีเรา
วิธีการคำนวณรายได้ของผม ก็ใช้ excel ง่ายๆนี่แหละครับ ในการจดบันทึก ซึ่ง 1 เดือนผมได้คำตอบออกมาดังนี้
(ผลประกอบการในช่วงเดือนแรกที่ขุดอัลกอริทึม Etash : ETH)
ในเดือนแรก (กว่าๆ) ผมขายได้เงินไปมากถึง 16,685 บาท เห้ย! เยอะกว่าที่คิดอีกนี่หว่า ซึ่งสาเหตุก็คือในช่วงเวลาที่ผมขุดจะสังเกตว่าราคาของเหรียญที่การปรับสูงขึ้นจาก 1,636 บาท เป็น 3,200 บาท ก็ทำให้ profit สูงขึ้น
ถึงตรงนี้ 3–4 เดือนก็คงคืนทุนแล้ว ที่เหลือกำไรล้วนๆเลยถูกต้องมั้ยครับ ใช่ครับ! ผมก็คิดแบบนั้น จึงได้เพิ่มทุนอย่างรวดเร็ว ขยายเหมืองของผมไปอีก ทีละเครื่องก็กลัวช้าเกินไป เนื่องจากตอนนั้นของเริ่มหายากขึ้นแล้ว จึงเพิ่มเป็น 4 เครื่องภายใน 1 เดือนกว่าๆ และก็ขยายเพิ่มมาเรื่อยๆ จนเป็น 10++ เรียกว่าตอนนั้นวู่วามสุดๆเลย ฮาๆ
เสียบปลั๊กรับตังค์ที่มีอะไรมากไปกว่านั้นซึ่งทุกรายรับ/รายจ่าย และการประเมินทั้งหมด เรียกว่าผมใช้ excel ในการคำนวณทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่า เราไม่ได้พลาดอะไรไป เรากำลัง run on profit ไม่ใช่เข้าเนื้อทุกเดือนอยู่
ผมอาจจะเล่าแต่ในมุมสวยหรู แต่จริงๆทุกอย่างในตอนนั้น อาจจะไม่ง่ายสักทีเดียว และไม่ได้ง่ายเหมือนวันนี้เลยครับ ทุกวันคุณต้องคอยระแวงว่าเครื่องจะค้างมั้ย การ์ดจอบางตัวร้อนไปรึเปล่า ไฟตก เน็ตดับ อุปกรณ์พัง วินโดวน์ล่ม ยังไม่นับว่าเหรียญที่ขึ้นๆลงๆแทบทุกวันอีก ถ้าเหรียญลง คุณไม่อยากขายเพราะอยากรอราคาที่ดีกว่า ก็ต้องควักกระเป๋าไปก่อนอะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งในช่วงนี้เองเปลี่ยนช่วงที่ทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก และได้เรียนรู้อะไรกับมันเยอะมากๆครับ ไม่ว่าจะเป็น
สกิลช่างไฟฟ้า เนื่องจากในตอนนั้นไฟบ้าน amp ไม่พอ ทำให้ต้องลงทุนขอหม้อไฟใหม่ รวมถึง safety ต่างๆ ปลั๊กไฟ เพื่อรองรับเครื่องที่ต้องใช้ load ไฟที่เยอะมากๆ ไปจนถึงการจัดการอากาศภายในร้อน ซึ่งมันร้อนมากเมื่อมีเครื่องเยอะๆ ทำอย่างไรที่จะระบายอากาศออกจากห้องได้เร็วที่สุด และวางเครื่องได้เยอะที่สุดภายในห้องแคบๆ
สกิลช่างคอมฯ แม้ว่าผมจะเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ก็ไม่ได้ประกอบคอมเก่งอะไร ก็ต้องมาหัดประกอบ ซ่อม แงะ เปลี่ยน ลงวินโดวน์ flash bios , overclock ไปจนถึงทำยังไงให้แน่ใจว่าเครื่องมันจะสามารถทำงานได้อยู่ตลอดเวลา วางระบบ internet backup link , VPN , หา program/ระบบ มาจัดการ monitor เครื่อง สั่งรีเซ็ต ถึงขนาดลงไปนั่งเขียนโปรแกรมเองก็มี
สกิลการเทรด และการเงิน นี่เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้มากที่สุดในช่วงทำธุรกิจนี้ ได้รู้จักการเทรดจริงๆ การบริหารกำไรที่มี ที่ fixed cost เยอะ แต่ environment factor เยอะมากจนทำให้คุณอาจเจ๊งได้ในไม่กี่วัน รวมไปถึงความรู้เกี่ยวกับวงการ crypto ที่เป็นพื้นฐานสำหรับสำหรับสายเทรดในวันนี้
สกิลความอดทน มีหลายครั้งที่ผมต้องตื่นขึ้นมาตอนตี3 ตี4 ทั้งที่เพิ่งจะได้นอนไปไม่ถึง 2 ชม เพราะบางครั้งฝนตกหนักด้วยความกังวลว่าความชื้นจะทำให้เครื่องเป็นอะไรมั้ย , Power supply ที่ระเบิดกลางดึก ครั้นจะรอให้เช้าแล้วค่อยมาซ่อมก็เสียหายหลายบาทอยู่ ไปจนถึงแมวเตะปลั๊กไฟก็มี (มีจริง ไม่ได้มุก!) นี่ยังไม่ได้นับว่าพวกเหรียญที่ชอบเทอย่างเงียบๆตอนดึก จนบางทีกังวลจนนอนไม่หลับก็มี ฮาๆ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ยังคิดว่าเป็นการเสียบปลั๊กรับตังค์อยู่มั้ยครับ : ( อย่างไรก็ตามมันก็สนุกอยู่ครับ เทียบกับรายได้ขนาดนี้ ณ ตอนนั้นบอกเลยครับว่ามันอาจจะไม่ได้แย่ มันคุ้มค่ามากครับสำหรับการลงทุน ลงแรง (ย้ำว่าในช่วงนั้น!)
จุดPEAKสุดถึงจุดLowสุดในยุคปี 2017 หรือหลายๆคนเรียกว่ายุคทุ่งลาเวนเดอร์ครับที่ไม่ว่าคุณจะลงทุนอะไร Crypto , ICO , Future , ASIC หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคริปโตเนี่ยมีแต่กำไร กำไร กำไรครับ จนเรียกได้ว่าหลายๆคนก็ควักกระเป๋าลงไปไม่ใช่น้อยเลย เครื่องขุดที่ผมเคยซื้อมาในราคา 60,000–70,000 บาท อยู่ๆก็ขายได้ราคาเกือบ 140,000 บาท ทั้งๆที่ใช้งานไปแล้ว 6 เดือน+ ในตอนนั้นเนี่ยเรียกว่าได้ demand ล้นตลาด การ์ดจอกลายเป็นสิ่งหายากไปเลยครับ
ก็อย่างที่บอกครับยุคทองนี้เข้ามาไม่นานแล้วก็ผ่านไปครับ บรรดาเหรียญที่เคยราคาสูงๆ ต่างหัวปักลงพื้นที่ภาษานักเทรดจะเรียกว่า “ขึ้นบันไดลงลิฟท์” ก็ประมาณนั้นเลย รวมถึงค่า Diff (ค่าความยากในการขุดเหรียญ ยิ่งคนมาขุดเยอะมันจะยิ่งยาก) ที่สูงขึ้นมากๆ ก็ทำให้นักขุดเหมืองที่สายป่านไม่ยาวพอ ก็มักจะไปไม่รอดในเวลาถัดมา ต่อให้รอดก็แทบจะไม่เหลือกำไร บางเดือนแทบจะไม่พอจ่ายค่าไฟด้วยซ้ำ…
แต่เป็นโชคดีของผมมากครับ ที่ตั้งแต่วันแรกที่ลงทุนไป ส่วนใหญ่แล้วผมมัก run on profit ครับ คือไม่ได้เพิ่มทุนลงไปแต่อย่างไร ขุด > เทรด > ขาย > ถอน วนเวียนอยู่แบบนี้เพื่อเอาเงินมาซื้อเครื่องถัดๆไป จนทำให้การขึ้นหรือลงนั้น ไม่ได้ส่งผลกับผมสักเท่าไหร่ เว้นแต่ว่าเห็นกระดาษแดงติดต่อกันหลายๆวันพร้อมกับบิลค่าไฟ ก็แอบสะเทือนใจอยู่เหมือนกันครับ 5555 ซึ่งสุดท้ายแล้วผมเองก็ตัดสินใจขายทุกอย่างเหมือนกันหลังจากนั้นไม่นาน ก็เสียดายเหมือนกันครับที่เลือกขายในวันที่ supply ล้นตลาดแล้วทำให้ราคาขายแอบได้ต่ำกว่าเป้าพอสมควรเลยล่ะครับ
ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกเอาไว้ก่อนปิดกิจการ
สิ่งที่ได้เรียนรู้..หลังจากที่ปิดกิจการขุดเหมืองไป ก็เรียกได้ว่าได้เปลี่ยนเป็นสายเทรดเต็มตัวแล้วครับสำหรับตอนนี้ ก็เรียกได้ว่ากินอิ่มนอนหลับมากขึ้น แต่ก็ยังคงติดตามอยู่สายขุดอยู่ห่างๆล่ะครับ เผื่อว่าวันนึงจะได้กลับมาเปิดใหม่อีกสักครั้ง :D ก็เรียกได้ว่าสนุกและหัวเราะยิ้มและเรียนรู้ไปพร้อมกับมัน ซึ่งผมจึงถือโอกาสสรุปหัวข้อที่คิดว่าได้เรียนรู้และน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ครับ คือว่า..
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ใช่ครับ..เป็นประโยคคลาสสิกที่ได้ยินกันมาอยู่แล้ว high risk high return ครับ ยิ่งเราใช้เงินเย็นในการลงทุนมากเท่าไหร่โดยเฉพาะการลงทุนที่ high risk เรายิ่งได้เปรียบเท่านั้น หลายคนที่กู้เงินมาลงทุน หรือไม่พร้อมที่จะเสียเงินต้นนั้นไปมักจะเป็นคนที่พ่ายก่อนอยู่เสมอ วันนี้เรายอมรับได้ที่ขนาดไหน ถ้าหากเงินต้นที่เราถืออยู่นั้นมันหายไป หรือถ้าหากสิ่งที่คุณลงทุนไปมันไม่ก่อเกินรายได้เลย คุณทนอยู่ได้ที่กี่เดือน ลองถามคำถามนี้กับตัวเองดูกันครับ
อย่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นดวง ผมเป็นหนึ่งคนที่ไม่เชื่อในเรื่องของดวงเลยแม้แต่น้อย ผมเชื่อว่าทุกอย่างมันมีเหตุและผลของมันเสมอ ถ้าวันนี้เราทำธุรกิจแบบหวังพึ่งดวงเหมือนซื้อหวย ธุรกิจของคุณก็จะโตแบบ ถูกและไม่ถูกหวยนั่นล่ะครับ แต่ผมเชื่อในเรื่องของโอกาสมากกว่า เมื่อเวลานั้นมาถึงอย่าปล่อยให้หลุดมือครับ คว้ามันเอาไว้ :)
อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณไม่รู้ เพราะทุกๆสิ่งมันไม่มีอะไรที่ง่ายเลยครับ แม้แต่การยืนขายของในร้านชำ (ไม่ได้มีเจตนาดูถูกแต่อย่างใดนะครับ) ดังนั้นอย่าเชื่อคนที่บอกว่าลงทุนนี้สิง่ายนิดเดียวแบบนี้อันตรายมากครับ ถ้าไม่รู้ต้องหมั่นศึกษาครับ take time ให้มากกว่าคนอื่น ยิ่งรู้เยอะ ยิ่งได้เปรียบ แต่อย่ารู้อย่างเดียวนะครับ ลงมือทำด้วย!
บางเรื่องเป็นสิ่งที่สอนกันไม่ได้ หลายปีที่ผ่านมา ผมเห็นกูรูมาค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเวลาที่เป็นตลาดขาขึ้น! สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาเยอะมากคือว่า บางสิ่งมันเป็นเรื่องที่สอนกันไม่ได้จริงๆครับ มันต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ ความเก๋า ความเชี่ยวชาญ มันจะทำให้เราคมขึ้น แต่ไม่ได้บอกว่าเราไม่ควรเรียนรู้นะครับ แต่ทุกสิ่งมันสามารถผิดพลาดได้เสมอแหละครับ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ทุกๆสิ่งในโลกนี้ล้วนอนิจจัง ไม่มีอะไรคงทนถาวรหรอกครับ อย่าปล่อยให้ Sunk cost fallacy เกิดขึ้นในหัวของคุณ เมื่อถึงเวลาต้องปล่อยก็ต้องปล่อยครับ อย่าเสียเวลา ทุกอย่างมันมี timing ของมัน ถ้ามันอยู่ในช่วงเวลาที่ใช่ มันก็จะใช่เองล่ะครับ
ขออนุญาตช่วยคุณ Akarapas Kiatsoemkhachorn ขายของท้ายรายการ..
สำหรับท่านที่ยังไม่มีกระเป๋าสำหรับฝากเหรียญคริปโต หรือใครที่สนใจเริ่มต้นเป็นมือใหม่หัดเทรด ก็อย่าลืมมาสมัครสมาชิกกันได้ที่ https://www.bitkub.com/signup?ref=62384
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ