简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ทำไม Warren Buffett มองว่า ไม่มีการลงทุนไหนที่จะดีไปกว่าการปิดหนี้บัตรเครดิตอีกแล้ว เรื่องที่คุณกำลังจะได้อ่านนี้ อาจจะช่วยจบทุกปัญหาด้านการเงินของคุณ เลยก็เป็นได้...
เรื่องที่คุณกำลังจะได้อ่านนี้ อาจจะช่วยจบทุกปัญหาด้านการเงินของคุณ เลยก็เป็นได้...
ในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท Berkshire Hathaway เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมปีก่อน ไม่ได้คุยเรื่องหุ้นและการลงทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่มหาเศรษฐี Warren ยังได้หยิบเรื่องของเพื่อนคนหนึ่ง ให้เป็นกรณีศึกษาอีกด้วย
เมื่อเธอเข้ามาพบเขา พร้อมกับขอทางออกเรื่องปัญหาการเงินที่กำลังเผชิญ
คำถามแรกที่ Warren ถามกลับไปก็คือ “เป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่รึเปล่า!?”
ปรากฏว่า.. เธอมีหนี้บัตรเครดิตอยู่ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 18%
นั่นทำให้คำแนะนำสั้นๆ ของเขาก็คือ ทำทุกวิถีทางเพื่อปิดหนี้ตรงนี้ให้หมดก่อน!!
“ถ้าผมต้องเป็นหนี้อะไรก็ตามที่ดอกเบี้ย 18% สิ่งแรกที่ผมจะทำก็คือ จ่ายมันด้วยเงินทั้งหมดที่ผมมี”
“รับรองได้เลยว่า มันเป็นสิ่งที่ดีกว่า ทุกไอเดียการลงทุนที่ผมมีตอนนี้”
แล้วทำไม Warren Buffett ถึงได้กลัวหนี้บัตรเครดิตนัก!?
คำตอบง่ายๆ อาจจะเป็นเพราะ เขาเข้าใจความมหัศจรรย์ของสิ่งที่เรียกว่า “ดอกเบี้ยทบต้น” ได้เป็นอย่างดี
Warren มีผลตอบแทนในการลงทุน อยู่ที่ประมาณ 20% ต่อปี แม้จะฟังดูไม่สูงมาก แต่นี่คือสิ่งที่เขาทำได้ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา
สมมติว่า คุณไปลงทุนกับเขาในปี 1964 ด้วยเงินประมาณ 10,000 บาท
จนถึงปี 2020 เงินหมื่นหนึ่งจะกลายเป็นหุ้นที่มีมูลค่ากว่า 226 ล้านบาท!!
ดอกเบี้ยทบต้นนั้นสามารถทวีคูณได้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้ดีก็คือ การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง และมีโอกาสขาดทุนได้เช่นกัน
ในปี 1999 เขาขาดทุนไป 20%
ย้อนไปในปี 1990 มูลค่าหุ้นของเขาลดลงไป 23%
หรือกระทั่ง ในปี 1974 มูลค่าหุ้นของเขาตกลงไปกว่า 48%
คุณจะรู้สึกยังไง ถ้าคุณบังเอิญเอาเงินไปลงทุนกับ Buffett ในปีนั้น แล้วเงินหายไปเกือบครึ่งในเวลาแค่ปีเดียว!?
แม้สุดท้ายเขาสามารถทำกำไรกลับมาได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า เส้นทางของนักลงทุนระดับโลก กับผลตอบแทนเฉลี่ย 20% ต่อปีนั้นไม่ง่าย
เราย้อนกลับมาที่ดอกเบี้ยบัตรเครดิต...
ในสหรัฐอเมริกา ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ประมาณ 16-18%
ขณะที่ในไทย ดอกเบี้ยบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ ก็อยู่ที่ประมาณ 18-20% ขึ้นไป
ซึ่งสมมติว่าเราจ่ายแค่ขั้นต่ำ หรือไม่ยอมจ่ายหนี้ในส่วนนั้น มันก็จะกลายเป็นหนี้ก้อนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว จนกว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
แล้วเราจะจัดการกับหนี้บัตรเครดิตอย่างไร!?
หลายคนกำลังหลงทาง เลือกวิธีที่ผิดๆ ด้วยการไปเป็นหนี้บัตรเครดิตใบใหม่ เพื่อมาปิดหนี้บัตรเครดิตใบเดิม
ซึ่งในมุมมองของ Buffett สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย เพราะคุณไม่ได้แก้ไขหนี้ คุณแค่หาหนี้ใหม่มาปิดหนี้เก่าเท่านั้น
และตัวเลข 18% นั้นก็ยังคงวิ่งต่อ มันยังทำให้คุณติดอยู่ในหล่มนี้ต่อไป
คำแนะนำข้อแรก สำหรับคนที่พอจะมีเงินออมเอาไว้อยู่บ้าง
ให้แบ่งเงินเอาไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จากนั้นก็ให้นำเงินเก็บที่เหลือไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
คำแนะนำข้อที่สอง สำหรับคนที่ปัญหาซับซ้อนกว่านั้น
สำหรับคนที่ไม่มีเงินสำรอง ไม่มีเงินเก็บ คุณต้องทำยังไงก็ได้ให้หนี้บัตรเครดิต 18% นั้นหมดลงเป็นก้อนแรก
ไม่ว่าจะเป็นการขอพักชำระหนี้บ้าน ที่จะมีดอกเบี้ยเพียง 4-7%
หรือการขอเจรจาพักชำระหนี้รถยนต์ ที่อาจจะมีดอกเบี้ย 3-5%
ทั้งสองหนี้ด้านบน ดูเหมือนว่าธนาคารหลายแห่งพร้อมที่จะคุยกับคุณ แม้มันอาจจะยาก แต่คุณต้องพยายามให้ถึงที่สุด
คุณจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อทำยังไงก็ได้ ให้มีเงินมาชำระหนี้บัตรเครดิตก้อนนั้นก่อน
นั่นรวมถึงการลดทุกค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในชีวิต รวมถึงค่ากินดื่ม ค่าความบันเทิงต่างๆ ก็ด้วย
แล้วถ้าหนี้ 18% นั้นหมดลง คุณก็จะหลุดพ้นจากโซนอันตรายและจัดการกับหนี้ก้อนอื่นๆ ง่ายขึ้น
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ.. คุณจะต้องปรับเปลี่ยนนิสัยใหม่
ทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ต้องมั่นใจว่าจะมีเงินมาจ่ายได้แบบเต็มจำนวนทุกครั้ง
จงจำไว้เสมอว่า “บัตรเครดิต” คือสิ่งที่ดี มันเป็นบัตรที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจ่ายเงิน แต่ต้องไม่ใช่การนำเงินในอนาคตมาใช้
เราแนะนำถ้าคุณอยากดูรีวิวโบรกเกอร์จากผู้ใช้จริง สามารถกดเข้าไปที่ ‘การเปิดเผย’ และคุณจะเจอการร้องเรียนโบรกเกอร์ Forex จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อที่คุณจะได้เลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่เกิดปัญหาให้คุณปวดหัวได้ ลองใช้ดู ถ้าโบรกที่คุณใช้โดนร้องเรียนบ่อย ๆ ควรพิจารณาเลยล่ะ ดาวน์โหลดแอพ WikiFX เลย!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Warren Buffett มีลูกทั้งหมด 3 คน ได้แก่ ซูซาน ฮาวเวิร์ดและปีเตอร์ เด็กทั้งสามคนเดินตามรอยเท้าของพ่อแม่และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในงานการกุศล ในการประชุมสุดยอดการกุศลของ Forbes ครั้งที่สอง Warren Buffett ตอบคำถามหลายข้อเกี่ยวกับการเป็นพ่อแม่
Warren Buffett แนะนำ 6 ข้อคิด ที่อาจช่วยให้เส้นทางสู่ความสำเร็จของทุกๆคนสดใสมากขึ้นในปี 2021
VT Markets
Tickmill
GO MARKETS
FBS
Pepperstone
FxPro
VT Markets
Tickmill
GO MARKETS
FBS
Pepperstone
FxPro
VT Markets
Tickmill
GO MARKETS
FBS
Pepperstone
FxPro
VT Markets
Tickmill
GO MARKETS
FBS
Pepperstone
FxPro