Bernie Madoff นักลงทุนกำไร 20% ตลอด 20 ปีแต่เบื้องหลังเป็นแชร์ลูกโซ่ 2 ล้านล้านบาท

Bernie Madoff คืออดีตประธานของ NASDAQ (National Association of Securities Dealers Automated Quotations) หรือตลาดหุ้นแนสแด็ก เป็นที่รู้จักกันดีในคดีแชร์ลูกโซ่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ถูกจับกุมในเดือนธันวาคมในปี 2008 โดยเขาได้รับสารภาพถึงความผิดทางอาญา 11 กระทง จากนั้น Madoff ในวัย 71 ปีจึงถูกตัดสินจำคุก 150 ปี

Madoff เกิดมาในครอบครัวนักลงทุน มีพ่อเป็นโบรกเกอร์ค้าหุ้น ส่วนแม่ก็เป็นเจ้าของบริษัทเล็ก ๆ ทำให้เขากลายเป็นคนที่ชอบเรื่องการเงินมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นเขาตั้งใจทำงานพิเศษหลายอย่าง เพื่อเก็บเงินไปใช้ในการลงทุนที่เขาหลงไหล Madoff ได้เปิดบริษัท Bernard L.Madoff Investment Securities LLC ในปี 1960 ตอนอายุ 22 ปีเท่านั้น ตอนแรกเขาซื้อขาย ‘หุ้นเพนนี’ ด้วยเงิน 5,000 ดอลลาร์ จากนั้นเขาสามารถการันตีผลตอบแทนอย่างต่ำ 10% ต่อปี จนได้รับความไว้ใจจากนักลงทุนในแวดวงต่าง ๆ ทั้งมหาเศรษฐี ดารา และนักลงทุนชื่อดัง และทำให้คนเหล่านั้นนำเงินมาร่วมลงทุนด้วย

Madoff มีบทบาทสูงในการพัฒนาตลาดให้กับหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยเฉพาะการเข้าไปซื้อขายในตลาดหุ้นแนสแดค แทนกระดานหลักของตลาดหุ้นนิวยอร์กตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ตลอดจนประสบการณ์และความสำเร็จทางธุรกิจของเขา ทำให้เขากลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของตลาดหุ้นแนสแดคโดยไม่มีใครเอะใจว่า ความมีชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือของเขา คือตัวแปรสำคัญที่นำไปสู่การฉ้อโกงครั้งใหญ่ของโลก

ไม่มีใครรู้ว่าผลกำไรที่นักลงทุนได้รับอยู่นั้นมาจากเงินลงทุนของนักลงทุนรายใหม่ที่ จากความไว้วางใจของลูกค้ามากหน้าหลายตา ทั้งที่เป็นกองทุนหลายสิบราย และนักลงทุนรายย่อย แชร์ลูกโซ่ของเขายิ่งใช้ชื่อเสียงของคนดัง สถาบันการเงิน และมหาเศรษฐี เหล่านี้ เป็นเครื่องมือในการสร้างกลุ่มนักลงทุนที่ต่อขยายออกไปเป็นลูกโซ่ ในช่วงพีคสุด ๆ กองทุนของเขามีเงินลงทุนมากถึง 2 ล้านล้านบาท

แน่นอนว่าสำหรับวงการแชร์ลูกโซ่แล้ว ไม่มีที่ไหนอยู่ยั้งยืนยง กองทุนของ Madoff ก็เช่นกัน ช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ เงินที่เข้ามาก็น้อยลง ลูกค้าเข้ามาเพื่อขอเงินคืนจำนวน 7 พันล้านเหรียญ แต่เมื่อจริง ๆ แล้วมันไม่มีธุรกิจ ไม่มีการลงทุนจริง ๆ ก็ไม่มีเงินคืนให้ใครทั้งนั้น ขณะนั้น Madoff เริ่มบอกกับพนักงานระดับอาวุโส ซึ่งก็คือลูกชายของเขาว่าธุรกิจทั้งหมดเป็นเรื่องต้มตุ๋น ที่ผ่านมาคือแชร์ลูกโซ่

จนในวันที่ 10 ธันวาคม ปี 2008 ทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยและถูกจับกุม ไม่กี่วันหลังจากนั้นชื่อของเหยื่อก็ทยอยเปิดเผยออกมา มีทั้งเศรษฐี คนดัง และมูลนิธิ รวมไปถึงธนาคารและสถาบันการเงินอีกด้วย เช่น ธนาคาร Bénédict Hentschm, ธนาคาร Santander ของสเปน, HSBC ของอังกฤษ และ Royal Bank of Scotland นอกจากนี้ยังมีกองทุนที่ได้รับความเสียหายอันเป็นกองทุนที่มี Madoff เป็นผู้จัดการกองทุน เช่น กองทุน Hedge Fund กองทุน Fairfield Sentry กองทุนบริหาร Fairfield Greenwich Group ของ Walter Noel หรือกองทุน Kingate Global Fund

สุดท้ายแผนการก็พังลง สร้างความเสียหายกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 2 ล้านล้านบาท จนวันที่ 12 มีนาคม ปี 2009 เขาได้รับสารภาพว่าได้ก่อคดีอันฉาวโฉ่ และถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 150 ปี ปิดตำนานลวงโลกกว่า 2 ทศวรรษ

ยังมีตำนานแชร์ลูกโซ่ครั้งใหญ่ของโลกอีกหลายครั้งที่ถูกบันทึกไว้ในอดีต ในขณะที่ปัจจุบันก็มีตำนานใหม่ ๆ เกิดไม่หยุด ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่แชร์ลูกโซ่จะหมดไป แต่เราขอเตือนไว้ว่ามิจฉาชีพอยู่ได้ด้วยลูกค้า หากพวกเราตรวจสอบให้ละเอียด ดูอย่างถี่ถ้วน มิจฉาชีพเหล่านี้จะไม่มีลูกค้า และแชร์ลูกโซ่ก็จะเป็นแค่ตำนานเท่านั้น รู้เท่าทันมิจฉาชีพได้ง่าย ๆ ด้วยการรับข่าวสารการเตือนภัยการเงินทุกรูปแบบได้ทุกวัน ผ่านแอปพลิเคชัน WikiFX โหลดฟรี! และคุณสามารถตรวจสอบโบรกเกอร์ดีได้ด้วย

แนะนำฟีเจอร์ “จัดอันดับโบรกเกอร์” คุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex แนะนำอยู่หรือไม่ ถ้าใช้ให้ดาวน์โหลดแอพ WikiFX เพื่อตรวจสอบโบรกเกอร์หรือดูการจัดอันดับ โบรกเกอร์ Forex เพราะแอพ WikiFX ได้ตรวจสอบโบรกเกอร์และคัดสรรมาให้หมดแล้ว ว่าโบรกเกอร์ไหนดีหรือไม่ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.biography.com/crime-figure/bernard-madoff？fbclid=IwAR1APIU2-x-8-T6DW0anUvk0tUHHCen5k6EMKjM2GFY19qjRw1lyxskgF9w

https://www.investopedia.com/terms/b/bernard-madoff.asp

https://www.britannica.com/biography/Bernie-Madoff