简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ร่วง หลังนักลงทุนกลับเข้าซื้อพันธบัตร เหตุกังวลเงินลีราตุรกีร่วงหนักกว่า 17% จากคำสั่งปลดฟ้าผ่าผู้ว่าแบงก์ชาติ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) รัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเมื่อคืนนี้ (22 มีนาคม) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.68% เช่นเดียวกับบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 30 ปี ที่ลดลงสู่ระดับ 2.39% หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้า บอนด์ยีลด์รุ่นอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ เพิ่งจะพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดรอบ 14 เดือน ด้วยการขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1.70% และรุ่นอายุ 30 ปี ขึ้นไปยืนเหนือระดับ 2.5%
โดยการลดลงของบอนด์ยีลด์ในทั้ง 2 รุ่นอายุนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากนักลงทุนกลับมาเข้าซื้อ เพราะกังวลต่อสถานการณ์การอ่อนค่าของค่าเงินลีราตุรกี ที่เปิดตลาดสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงมากกว่า 17% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยแตะที่ระดับ 7.9 ลีราต่อ 1 ดอลลาร์ ก่อนที่จะขยับฟื้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 8.4 ลีราต่อ 1 ดอลลาร์
การร่วงลงอย่างหนักของค่าเงินลีราในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประกาศปลด นาซิ อักบาล ผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกีออกจากตำแหน่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะไม่พอใจต่อนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อของประเทศที่พุ่งแตะระดับ 15.61% ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในมุมมองของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ การตัดสินใจของ อักบาล อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติตุรกีที่โดนปลดสายฟ้าแลบครั้งนี้ ถือเป็นแนวทางการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่ถูกต้อง เพราะมีแต่การการขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเพื่อจูงใจให้ นักลงทุนต่างชาติเก็บเงินสดสกุลเงินลีรา บวกกับการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเท่านั้นที่จะช่วยกู้วิกฤตเงินเฟ้อ และทำให้การเงินตุรกีมีเสถียรภาพมากขึ้่น
อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวกลับขัดต่อความเชื่อของประธานาธิบดีแอร์โดอันที่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงจะทำให้เงินเฟ้อสูงตาม ทำให้ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีตุรกีเรียกร้องให้ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาโดยตลอด แต่อักบาลซึ่งเข้ารับตำแหน่งไม่ถึง 5 เดือน กลับเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ทำให้รวมแล้วมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 8.75% อีกทั้งในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางตุรกีมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2.00% มาอยู่ที่ระดับ 19.00% เพื่อสกัดแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์เงินทุนไหลออก
รายงานระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับประธานาธิบดีตุรกีจนมีคำสั่งปลดดังกล่าว โดยนับเป็นการปลดผู้ว่าแบงก์ชาติคนที่ 3 ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี ซึ่งผู้นำตุรกีได้แต่งตั้ง ชาฮัป คาฟซิโอกลู อดีตสมาชิกรัฐสภาจากพรรคเอเคของประธานาธิบดีแอร์โดอันให้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ ที่ออกมาประกาศว่า ธนาคารกลางตุรกีจะยังใช้เครื่องมือนโยบายการเงินอย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์หลักในการบรรลุการลดลงอย่างถาวรของอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ สิ่งที่นักลงทุนวิตกกังวลก็คือการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายรัฐบาล จะส่งผลต่อเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของตุรกีที่กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตุรกีในฐานะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ มีการใช้จ่ายและการลงทุนที่เกินตัวทั้งภาครัฐและเอกชน บวกกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ทำให้ตุรกีต้องรับมือกับปัญหาหนี้สูง ทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับต่ำ และทุนไหลออกอย่างต่อเนื่อง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
เปิดตลาดลงทุนในสัปดาห์ที่กำลังจะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ด้วยการทะยานขึ้น 2.7% ของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี
'มอร์แกน สแตนลีย์'แจงบอนด์ยีลด์พุ่งสะท้อนเชื่อมั่นศก.สหรัฐ ขณะที่ชาวอเมริกันรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งทำให้อัตราการติดเชื้อลดลง