简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:"โจ ไบเดน" ให้คำมั่นจะทุ่มงบประมาณพัฒนานวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ยอมจีน แซงหน้ามหาอำนาจโลก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และผู้นำสหรัฐได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ โดยให้คำมั่นว่าจะทุ่มงบประมาณให้มากกว่าจีนในด้านการพัฒนานวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อไม่ให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นประเทศผู้นำที่ทรงอำนาจอันดับหนึ่งของโลกแทนสหรัฐ
“ผมคิดว่าเราจะต้องแข่งขันกับจีนอย่างหนัก ที่ผ่านมารัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายใหญ่ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจโลกร่ำรวยที่สุดในโลก และมีอำนาจมากที่สุดในโลก แต่รับรองได้ว่าจะไม่เกิดในสมัยผมแน่ เพราะสหรัฐเองก็จะเติบโตและขยายอิทธิพลเช่นกัน” ปธน.ไบเดนกล่าว
อย่างไรก็ดี แม้ว่าแถลงข่าวดังกล่าวจะเป็นการแถลงอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ปธน.ไบเดนเข้ารับตำแหน่ง แต่ปธน.ไบเดนก็ไม่ได้เปิดเผยว่าการพิจารณาคงอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าที่ส่งมาจากจีน หรือการแบนสินค้าที่ผลิตจากการบังคับใช้แรงงานในเขตซินเจียงนั้น มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นมากกว่าช่วงก่อนที่เขาจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชน และจะร่วมมือกับชาติพันธมิตรเพื่อประนามการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มน้อยซึ่งเป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง รวมไปถึงการดำเนินการต่างๆ ของรัฐบาลจีนที่เกี่ยวกับฮ่องกง
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังเปิดเผยด้วยว่า เขามีความตั้งใจจะเชิญชวน “พันธมิตรฝ่ายประชาธิปไตย” มายังทำเนียบขาวเพื่อหารือเรื่องในอนาคต และมีการพูดคุยเพื่อทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจตรงกันในเรื่องจีนและประเด็นอื่นๆ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ออกคำสั่งแต่ตั้ง นายเจอโรม พาวเวล ดำรงตำแหน่งประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อเป็นสมัยที่ 2 หลังแสดงผลงานและมีบทบาทสำคัญในการช่วยเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากแรงกดดันหนักของการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
ในทางการเมือง ทั่วโลกต่างเฝ้าจับตาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ซึ่งจุดประกายความหวังทางด้านสังคมและสันติภาพ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่บริษัทท่อส่งน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังจากบริษัทถูกโจมตีทางไซเบอร์ เบื้่องต้นสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือกลุ่ม “ดาร์กไซด์” ใช้สัญลักษณ์ภาพโรบินฮู้ด
ตลาดร่วงลง หลังจากโจ ไบเดนพร้อมที่จะทำตามสัญญาที่จะขึ้นภาษีคนรวย