简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ: 2 ประเทศมหาอำนาจ จีน VS สหรัฐฯ ล่าสุดมาถึงวงการสกุลเงินดิจิทัล จากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทั้ง 2 ประเทศได้ซุ่มพัฒนาเหรียญของตนเอง วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จัก หยวนดิจิทัล และดอลลาร์ดิจิทัลกัน ใครดีกว่า ใครจะได้ใช้ก่อน อะไรยังไงไปดูกัน!
เรียกได้ว่าแข่งกันทุกเรื่องจริง ๆ สำหรับ 2 ประเทศมหาอำนาจ จีน VS สหรัฐฯ ล่าสุดมาถึงวงการสกุลเงินดิจิทัล จากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทั้ง 2 ประเทศได้ซุ่มพัฒนาเหรียญของตนเอง วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จัก หยวนดิจิทัล และดอลลาร์ดิจิทัลกัน ใครดีกว่า ใครจะได้ใช้ก่อน อะไรยังไงไปดูกัน!
หยวนดิจิทัล หรือ “Digital Currency Electronic Payment (DCEP)” เป็นเงินดิจิทัลสกุลใหม่ ที่ถูกสร้างโดยธนาคารกลางของจีน มีมูลค่าเท่ากับเงินหยวนในรูปแบบกระดาษ ใช้แทนเงินหยวนในชีวิตประจำได้เลย เพียงแต่เปลี่ยนจากธนบัตรมาเป็นแบบดิจิทัล โดยจะใช้ผ่านแอปที่ชื่อว่า “DCEP Wallet App” ซึ่งเป็นแอปกระเป๋าเงินที่รัฐบาลสร้างขึ้น รวมถึงสามารถใช้ผ่านแพลตฟอร์มจ่ายเงินอื่น ๆ ที่คนจีนนิยมกัน เช่น Alipay หรือ WeChat Pay ทำให้จีนกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่มีสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติอย่างเป็นทางการ
หยวนดิจิทัลจะเข้ามาทดแทนการใช้เงินหยวนแบบกระดาษ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจแบบ Cashless Society ให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น จากปกติที่คนจีนนิยมใช้บัตรเครดิตหรือสแกนจ่ายออนไลน์กันอยู่แล้ว ก็ทำให้คล่องขึ้นไปอีกด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ ซึ่งการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้คนใช้จ่ายแบบออนไลน์และระแวงการสัมผัสเงินสด กลายเป็นตัวเร่งให้หยวนดิจิทัลเป็นจริงเร็วขึ้น หยวนดิจิทัลมีมูลค่าที่เสถียร ถูกควบคุมดูแลโดยรัฐบาล และมีมูลค่าที่ผูกกับเงินหยวนปกติ จึงไม่ต้องกลัวว่ามูลค่าจะเหวี่ยงขึ้นลงแรง ๆ ตามกระแสเหมือนอย่าง Bitcoin นั่นเอง
ที่สำคัญคือหยวนดิจิทัล เริ่มใช้จริงแล้ว หลังจากที่เริ่มทดลองใช้แล้วในเมืองใหญ่ของจีนอย่าง เสิ่นเจิ้น ซูโจว สงอัน และเฉิงตู โดยมีธุรกิจรายใหญ่เข้าร่วมโปรเจ็กต์นำร่องหลายราย รวมถึง Starbucks, McDonalds และ Subway นอกจากนี้รัฐบาลยังมีแผนจะจ่ายเงินเดือนพนักงานของรัฐเป็นหยวนดิจิทัลแล้วเร็ว ๆ นี้ ซึ่งแปลว่าอีกไม่นานห้างร้านต่าง ๆ ก็น่าจะถูกต้อนกลาย ๆ ให้เข้าร่วมโครงการไปด้วย มีการวิเคราะห์ว่านี่อาจเป็นเงินดิจิทัลสกุลแรกที่ขึ้นมาแทนเงินปกติได้ รัฐบาลตั้งใจยกระดับการใช้งานให้แพร่หลายทั่วประเทศ รวมถึงในระยะยาวประเทศคู่ค้าของจีนก็อาจถูกบีบให้ใช้เงินหยวนดิจิทัลในการชำระเงินข้ามพรมแดน และนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่สู่ยุคเงินดิจิทัลอย่างแท้จริง ด้วยอำนาจต่อรองมหาศาลของจีนทางด้านการค้า มีโอกาสที่เงินหยวนดิจิทัลจะขึ้นมามีบทบาทสำคัญกับคนทั่วโลกไม่แพ้เงินดอลลาร์สหรัฐในอนาคต
ทางฟากสหรัฐฯ ไม่ได้ยอมกัน มีการซุ่มพัฒนาเหรียญของตนเองเช่นกัน ล่าสุดนาย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เชื่อว่าเมื่อมีการพัฒนาดอลลาร์ดิจิทัลนั้น มันจะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้ใช้มากกว่าเงินหยวนดิจิทัลของธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ที่วางแผนไว้ แค่เริ่มก็ออกมาบลัฟซะแล้ว โครงการ ‘เงินดอลลาร์ดิจิทัล’ ถูกนำเสนอโดยนาย J. Christopher Giancarlo ที่ปรึกษาฝ่ายอาวุโสของ Willkie Farr และ Gallagher โดยก่อนหน้านี้ Giancarlo เป็นผู้สนับสนุน cryptocurrency และผู้ประกอบการด้าน blockchain ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่ที่ CBDC อีกทั้งเขายังได้รับฉายา ‘CryptoDad’ บน Twitter อีกด้วย
นาง Janet Yellen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ New York Times เกี่ยวกับดอลลาร์ดิจิทัล
“มันสมเหตุสมผลแล้วที่ธนาคารกลางจะพิจารณาในเรื่องนี้ ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงระบบการชำระเงินและบัญชีธนาคารแบบง่าย ๆ ได้และฉันคิดว่าเงินดอลลาร์ดิจิทัลอาจมีส่วนช่วยทำให้การชำระเงินเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้นและค่าธรรมเนียมถูกลง” ทางด้านประธาน Jay Powell ได้พูดในสิ่งที่คล้ายกันมากกับสิ่งที่เขาได้ให้การในวันนี้ Powell กล่าวเน้นย้ำว่าคณะกรรมการในวอชิงตัน ดี.ซี. กำลังตรวจสอบแนวคิดนี้เช่นเดียวกับการทำงานของบอสตันและการทำงานร่วมกับ MIT เพื่อศึกษาความเป็นไปได้สำหรับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง เป็นไปได้ว่าตอนนี้ทั้ง Yellen และ Powell อาจเริ่มมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับแนวคิดของดอลลาร์ดิจิทัลแล้วและในท้ายที่สุดประธานาธิบดี Biden อาจให้การรับรองความคิดนี้ในไม่ช้า
แต่ก็นั่นแหละนะ ถือว่าดอลลาร์ดิจิทัลยังตามหลังหยวนดิจิทัลอยู่มากโข มาจับตาดูกันว่าดอลลาร์ดิจิทัล จะมาทีหลังดังกว่าหรือไม่ มันจะดีกว่า เป็นส่วนตัวกว่าหยวนดิจิทัลตามที่โม้ไว้หรือไม่ หรือหยวนดิจิทัลจะขึ้นมามีบทบาทสำคัญกับคนทั่วโลกแทนที่ดอลลาร์ได้ คำตอบจะเป็นอย่างไรคงต้องอดทนรอวันที่ทั้ง 2 เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ หากคืบหน้ายังไง WikiFX จะรีบรายงานเลย อยากเกาะติดข่าวสารทันท่วงทีก็อย่าลืมโหลดแอป WikiFX ไว้ เพราะมีแจ้งเตือนทันทีที่มีข่าวสำคัญ โหลดฟรี!!!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ในวันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เผยผลการพัฒนาโครงการนำร่องชำระเงินในภาคธุรกิจโดยใช้ “สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง”
ขณะที่การลงทุน 1,500 ล้านดอลลาร์ในบิทคอยน์ของเทสลาเพิ่มความตื่นเต้นแก่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ตอกย้ำการใช้เงินบิทคอยน์ของเหล่านักลงทุนกำลังสร้างโอกาสใหม่ในตลาดทุนและสิงคโปร์ก็มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้
TMGM
Tickmill
GO MARKETS
FP Markets
Vantage
ATFX
TMGM
Tickmill
GO MARKETS
FP Markets
Vantage
ATFX
TMGM
Tickmill
GO MARKETS
FP Markets
Vantage
ATFX
TMGM
Tickmill
GO MARKETS
FP Markets
Vantage
ATFX