简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ดา (นามสมมุติ) เกษตรกรวัย 40 ปี เป็นเหมือนหลายคนที่อยากร่ำรวยมีเงินทอง แต่นี่เป็นเรื่องไม่ง่ายนักสำหรับชาวสวนยางที่ต้องเผชิญกับปัญหาราคายางตกต่ำและผันผวนอยู่ตลอดเวลา เธอจึงมักจะหาช่องทางทำรายได้เสริมอยู่เสมอ
เริ่มจากเปิดร้านขายของชำควบคู่ไปกับการทำสวนยาง แต่รายได้ที่เข้ามาก็ยังไม่เพียงพอกับที่เธอต้องการ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปคงอีกนานกว่าความฝันที่จะได้ “จับเงินล้าน” จะเป็นจริง เธอจึงค้นหาวิธีทำเงินเพิ่ม และพบวิธีนั้นจากคำแนะนำของเพื่อนที่เดินทางมาหาพร้อมกับคำว่า “เงินดิจิทัล”
บทสนทนาระหว่างเธอกับเพื่อนว่าด้วยเงินดิจิทัลเมื่อเดือน พ.ย. 2559 เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เพื่อนถามเธอว่ารู้จักเงินดิจิทัลหรือไม่ ดาซึ่งติดตามข่าวสารอยู่เป็นประจำตอบไปว่าเคยอ่านเจอบ้าง จากนั้นเพื่อนของเธอก็เปิดวิดีโอยูทิวบ์ให้ดู พร้อมกับให้ข้อมูลว่า “บิทคอยน์” คืออะไร จากนั้นก็แนะนำให้เธอรู้จักกับบริษัทที่ใช้ชื่อว่า “วันคอยน์”
วิดีโอแนะนำบริษัทวันคอยน์ที่เธอได้ดูนั้นเผยแพร่ทางรายการของสถานีโทรทัศน์ เนื้อหาบอกเล่าความเป็นมาของบริษัท ใครเป็นเจ้าของ สร้างความร่ำรวยให้ลูกค้าได้อย่างไร เป็นต้น หลังจากดูจบ ดาคิดว่าบริษัทนี้มีความน่าเชื่อถือมาก และเกือบจะในทันที เพื่อนของเธอก็ยื่นเอกสารข้อมูลแพ็คเกจการลงทุนให้ดู พร้อมกับถามว่าสนใจลงทุนแบบไหนและช่วยประเมินว่าจะได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่
“ตอนแรกที่เห็นแล้วรู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก รู้สึกว่าเราต้องรวยจากการลงทุนตรงนี้แน่นอน” ดาย้อนเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีก่อน “ตอนนั้นยอมรับเลยว่าสนใจมากและเชื่อว่ามันน่าจะทำกำไรได้ดี”
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่เปลี่ยนชีวิตเธอ จากที่คาดหวังว่าจะเปลี่ยนสถานะจากชาวสวนยางธรรมดา ๆ เป็นเศรษฐินี ดากลับต้องพบกับสิ่งที่ตรงข้าม
ลงทุนบิทคอยน์ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เพื่อนชักชวนเธอไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ดาตัดสินใจซื้อแพ็คเกจเริ่มต้นที่มูลค่า 30,000 กว่าบาท โดยเพื่อนของดาอธิบายว่าจากเงินลงทุน 30,000 บาทนี้ เธอจะได้กำไรเป็นหลักแสน และยังได้ “เหรียญ” ไปวางขายได้อีก
บิทคอยน์เป็นเงินดิจิทัล ซึ่งถูกบันทึกไว้ด้วยข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ และไม่มีตัวแทนมูลค่าในรูปแบบเหรียญหรือธนบัตร ขณะที่เงิน 1 บาทสามารถแบ่งออกเป็น 100 สตางค์ บิทคอยน์ 1 เหรียญสามารถแบ่งย่อยได้ถึง 100 ล้านหน่วย มูลค่าของบิทคอยน์พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นสถิติทะลุ 33,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเหรียญเมื่อปลายปี 2563
ปัจจุบันบิทคอยน์สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ แต่จำนวนร้านค้าที่รับบิทคอยน์นั้นยังนับว่าน้อยกว่าสกุลเงินปกติมาก นอกจากนี้การโอนและแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ข้ามชาติเป็นไปได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
นอกจากจับต้องไม่ได้แล้ว บิทคอยน์ยังไม่ได้เป็นของสถาบันการเงินใด ๆ แต่ถูกดูแลโดยเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ที่ช่วยกันจดบันทึกการทำรายการของทั้งระบบพร้อม ๆ กันทุกครั้งที่มีการทำรายการ จึงทำให้การแก้ไขปลอมแปลงนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก เทคโนโลยีที่ว่านี้เรียกว่า บล็อคเชน (blockchain)
บ่อยครั้ง บิทคอยน์ ถูกใช้เป็นชื่อเรียกแทนเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ทั้งหมด ซึ่งจริง ๆ แล้วมีนับร้อยสกุล อาทิเช่น Litecoin, Ethereum และ Zcash แต่บิทคอยน์ หรือ BTC นั้นได้รับความสนใจมากที่สุด
หลังจากที่ดาลงทุนกับแพ็คเกจเริ่มต้นไปแล้ว เพื่อนของเธอได้ชักชวนให้เธอเข้าเป็นสมาชิกในห้องสนทนาในแอปพลิเคชันไลน์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตลาดบิทคอยน์และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของบริษัท รวมทั้งไปร่วมฟังสัมมนาที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคใต้
ก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมสัมมนา ได้มีชายผู้หนึ่งโทรศัพท์มาชักชวนให้ร่วมเป็น “สายงาน” เพื่อหาสมาชิกมาร่วมลงทุนซื้อแพ็คเกจ โดยบอก่าเธอจะได้ค่าตอบแทน 10% จากยอดการลงทุนของแต่ละคนที่ชักชวนมาได้ และถ้าเธอมีสายงานเยอะก็จะได้ค่าบริหารทีมและค่าส่วนแบ่งอื่น ๆ อีกมากมายสูงสุดถึง 65% จากยอดที่เธอจะหามาได้
หลังจากที่ตอบตกลงร่วมลงทุนครั้งที่หนึ่งไป เธอได้เข้าร่วมฟังสัมมนาที่จัดขึ้นโดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คนโดยครึ่งหนึ่งในนั้นคือสายงานของผู้จัด และเกิดความมั่นใจในบริษัทมากขึ้นอีก จนทำให้เธอลงทุนเพิ่มอีกหนึ่งรอบ
“เราก็หวังอยากจะเป็นมหาเศรษฐี เลยลงทุนซื้อแพ็คเกจไปถึง 3 ครั้ง” ดาเล่า
รอบแรกเธอลงทุนซื้อแพ็คเกจไป 31,740 บาท รอบที่สองลงทุนไป 26,680 บาท และรอบที่สามลงทุนไป 114,724 บาท รวมเงินลงทุนทั้งสิ้น 173,144 บาท
จากนั้นวันที่ 18 ธ.ค. 2559 ทางบริษัทฯ จัดสัมมนาขึ้นอีกในภาคใต้ และหลังจากนั้นก็จัดสัมมนาเชิญชวนให้คนมาลงทุกแทบจะทุกเดือนโดยย้ายจังหวัดไปเรื่อย ๆ ดาตัดสินใจลงทุนครั้งสุดท้ายช่วงเดือน เม.ย. 2560 โดยเธอเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและผลตอบแทนสูง
ตลอดเวลาที่เธอลงทุนไป เธอไม่เคยได้อะไรตอบแทนกลับมา และหลังจากนั้นไม่นานเธอมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงิน เธอจึงขายแพ็คเกจสุดท้ายคืนให้กับเพื่อนของเธอและได้รับเงินคืนมา 50,000 บาท
แพ็คเกจที่เป็นเครื่องมือในการลงทุนนี้ทางบริษัทนิยามว่าเป็น “แพ็คเกจการศึกษา” และแต่ละแพ็คเกจมีราคาที่แตกต่างกันไป โดยทุกแพ็คเกจจะมีเหรียญที่ทางบริษัทเรียกว่า “โทเคน” โดยจะขึ้นอยู่กับแต่ละแพ็คเกจ ถ้าราคาถูกก็จะมีเหรียญน้อย และเพิ่มขึ้นตามแพ็คเกจการลงทุน
ผู้ชักชวนจะเป็นคนเปิดพอร์ตการลงทุนให้ผู้ลงทุน และก่อนหน้าที่จะได้เหรียญไปแลกเปลี่ยนซื้อขาย ทุกคนจะได้รับโทเคนก่อนซึ่งทางบริษัทได้ทำแอปพลิเคชันขึ้นมาเพื่อให้ผู้ลงทุนเห็นโทเคนของตัวเองในระบบ
ดาอธิบายว่าทางบริษัทบอกทุกคนว่าทันทีที่เข้าระบบเรียบร้อยแล้ว ทุกคนสามารถนำโทเคนที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นเหรียญและนำไปแลกเปลี่ยนซื้อขายหรือชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ได้ในวันจันทร์ถึงศุกร์ โดยทางบริษัทบอกกับผู้ลงทุนว่าจะเปิดเว็บไซต์ให้ทุกคนใช้เป็นกระดานซื้อขายเหรียญและสามารถนำเหรียญดังกล่าวไปใช้กับกระดานสาธารณะอื่น ๆ ได้ด้วย โดยสัญญาว่าจะเปิดให้ใช้งานได้ตอนเดือน เม.ย. 2561
ไม่ชอบมาพากลต่อมาในช่วงเดือน ม.ค. 2561 บริษัทแจ้งผู้ลงทุนว่าจะ “ปิดกระดานชั่วคราว” เพื่อนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น และให้นำเหรียญที่มีอยู่ไปใช้งานในเว็บไซต์อีกเว็บหนึ่งของบริษัทเพื่อให้นำเหรียญที่มีไปแลกสินค้าต่าง ๆ บนเว็บไซต์ โดยกระดานซื้อขายเหรียญจะกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือน พ.ค. 2561 แต่เมื่อถึงเวลานั้น บริษัทก็ขอเลื่อนการเปิดกระดานสาธารณะออกไปอีก
“คิดว่ามันไม่ใช่แล้ว คิดว่าน่าจะถูกหลอกแน่นอน ถ้าคุณเป็นบริษัทถูกกฎหมายจริงคุณต้องไม่โกหกสิ นี่เลื่อนไปเรื่อย ๆ เลย และก็ไม่บอกเราว่าจะใช้งานได้จริงเมื่อไหร่ด้วย” ดากล่าว
หลังจากที่เห็นท่าทีของบริษัทฯ เธอจึงเริ่มสืบความเป็นมาของบริษัทด้วยตัวเอง เธอเริ่มติดต่อไปยังเพจต่าง ๆ เพื่อขอความรู้ จนได้ข้อสรุปว่าสิ่งที่ตัวเองลงทุนไปนั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เธอเริ่มแบ่งปันเรื่องราวของเธอกับเพจต่าง ๆ จนมีผู้ดูแลเพจคนหนึ่งแนะนำให้เธอไปพบกับผู้เชี่ยวชาญหลายคนใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาในช่วงเดือน ส.ค. 2561 และหลังจากปรึกษากับผู้ที่อยู่ในวงการการลงทุนจนได้ข้อมูลมากพอ เธอจึงนำหลักฐานทั้งหมดที่มีไปแจ้งความกับตำรวจในเดือน ก.ย. 2561
ระหว่างนั้น เธอยังติดต่อกับเพื่อนที่มาชักชวนลงทุนอยู่และยังพยายามเตือนคนในกลุ่มไลน์ผู้ร่วมลงทุนว่าบริษัทวันคอยน์มีความไม่ชอบมาพากล แต่เธอกลับถูกนำชื่อออกจากกลุ่มและถูกห้ามไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เธอถูกไล่ออกจากทุกกลุ่มสนทนาเกี่ยวกับการลงทุนเงินดิจิทัลที่เป็นสมาชิก
ดาเล่าให้บีบีซีไทยฟังว่าเธอศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดด้วยตัวเองโดยไม่ได้มีทนายให้คำปรึกษา แต่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญประกอบกับหลักฐานที่เธอมีอยู่แน่นหนาจนทำให้เธอชนะคดีมาได้
“พยายามค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต หรือถ้าเจอทนายก็สะกิดถาม เจอตำรวจก็เข้าไปคุยขอความรู้สะสมมาเรื่อย ๆ” ดาอธิบาย
ดารวบรวมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและเดินทางขึ้นมาที่กรุงเทพฯ ในช่วงปี 2561 พร้อมยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส. ตร.)
“มาได้เจอกันอีกครั้งที่ศาล โกรธพวกเขามากเลย ที่โกรธเพราะเขามาหลอกลวงเราและชาวบ้านตาดำ ๆ” ดากล่าว
หลังจากขึ้นศาลในฐานะพยานและเจ้าทุกข์ ศาลได้พิจารณาคดีและมีคำพิพากษาออกมาเมื่อเดือน ส.ค. 2563 ว่าเธอชนะคดี โดยศาลมีคำสั่งให้จำเลยซึ่งเป็นคนไทย 3 คนที่เป็นผู้บริหารบริษัทวันคอยน์ให้คืนเงินให้เธอเต็มจำนวนที่ลงทุนไปและสั่งจำคุกผู้เกี่ยวเกี่ยวข้อง 3 ปี 4 เดือน
“สิ่งที่เราทำไม่ใช่แค่อยากได้เงินคืนอย่างเดียว เราต้องการหยุดขบวนการฉ้อโกงนี้และอื่น ๆ ที่คอยหลอกลวงเอาเงินชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องด้วย อยากให้หยุดหลอกลวงประชาชนได้แล้ว”
จากเหยื่อเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือดาบอกว่าทุกวันนี้ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่ยังเชื่อถือบริษัทนี้อยู่และยังร่วมลงทุนอยู่ทั้ง ๆ ที่คำพิพากษาก็ออกมาแล้วว่าบริษัทฉ้อโกงประชาชน
หลังจากผ่านเหตุการณ์มาแล้วเธอได้ผันตัวองจากเหยื่อกลายมาเป็นผู้ให้คำปรึกษาช่วยเหลือคนในหมู่บ้านของเธอ เกษตรกรสวนยางรายนี้บอกว่าเธอรู้จักรูปแบบของแชร์ลูกโซ่ชนิดต่าง ๆ ทั้งหมดและคอยให้คำปรึกษากับชาวบ้านก่อนที่พวกเขาจะถูกหลอกให้เสียเงินเปล่า เพราะเธอมีประสบการณ์มาก่อน
กลุ่มคนที่ยังเชื่อว่าบริษัทวันคอยน์น่าเชื่อถืออยู่ก็ยังคิดว่าวันหนึ่งพวกเขาจะสามารถนำเหรียญที่มีมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้จริง ๆ ตอนนี้เว็บไซต์ในการแลกเหรียญเป็นสินค้ายังคงมีอยู่ แต่กระดานแลกเปลี่ยนซื้อขายเหรียญเป็นเงินจริงก็ยังถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ จนถึงวันนี้
“ตอนนี้พบว่ามีแชร์ลูกโซ่รูปแบบใหม่ ๆ เข้ามาในหมู่บ้าน คอยหากินกับความลำบากของคน คนที่ทำเราก็รู้ว่าเป็นคนเดียวกัน เลยเข้าไปเตือนชาวบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการแชร์ลูกโซ่ประเภทต่าง ๆ” ดากล่าว
“อยากจะฝากบอกทุกคนว่ามันไม่มีหรอก อะไรที่ลงทุนระยะสั้น ๆ แล้วได้ผลตอบแทนดี ถ้ามีใครบอกว่าลงทุนหลักหมื่นแล้วจะได้กลับมาเป็นล้านก็อย่าไปหลงเชื่อ มันเป็นไปไม่ได้ อย่าไปฝันลม ๆ แล้ง ๆ ก่อนจะลงทุนกับใครต้องดูใบอนุญาตก่อนว่าถูกกฎหมายหรือไม่ ชวนคนมาลงทุนได้หรือเปล่า”
ชัยยศ ยงค์เจริญชัย
ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บิทคอยน์และทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีลักษณะและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยบิทคอยน์มีปริมาณจำกัด 21 ล้านเหรียญ ซึ่งสร้างความมั่นใจในการคาดการณ์มูลค่า ขณะที่ทองคำไม่มีปริมาณแน่นอนเนื่องจากเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถค้นพบเพิ่มเติมได้ ทั้งสองมีวิธีการเก็บรักษามูลค่าที่แตกต่างกัน บิทคอยน์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ปลอดภัย ขณะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์จับต้องได้ที่มีความเสี่ยงต่อการขโมย สำหรับความสะดวกในการเคลื่อนย้าย บิทคอยน์สามารถส่งไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทองคำต้องการการขนส่งทางกายภาพที่ยุ่งยาก ดังนั้นการเลือกลงทุนระหว่างบิทคอยน์และทองคำขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความเสี่ยงที่นักลงทุนพร้อมรับ โดยควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดกับตนเอง
ประกาศยุติสนับสนุนสเตเบิลคอยน์ USDC
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเทรด Forex
หลอกลงทุนทองคำ รับผลตอบแทนสูง เหยื่อนับร้อยสูญเงินกว่า 100 ล้านบาท