5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ตลาดคริปโตล่มสลาย?

ความผันผวนของตลาดมีแนวโน้มที่จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทิศทางของตลาดเปลี่ยนหมุนเปลี่ยนไปมา การแกว่งตัวของ Bitcoin อย่างดุเดือดซึ่งทำให้นักลงทนเกรงกลัวความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่อไปนี้ คือ ปัจจัยคุณต้องจับตามองในสัปดาห์นี้

1.การหมุนเวียนของตลาด

ขณะที่เหลือเวลาทำการอีกไม่กี่วันในเดือนนี้ ดัชนีแนสแด็ก และ ดัชนี S&P 500 กำลังอยู่ในระดับลดลง 3.5% และ 0.6% ตามลำดับ ตรงข้ามกับ ดัชนีดาวโจนส์ ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในเดือนนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่กำลังเติบโต

บรรดานักลงทุนต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของนโยบายเฟดในการเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น รายงานการประชุมของเฟดในสัปดาห์ที่แล้วชี้ให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายบางคนกำลังเตรียมสรุปมาตรการลดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการลดสัดส่วนการซื้อพันธบัตร

นักวิเคราะห์คาดว่า จะยังคงมีการเปลี่ยนจากกลุ่มหุ้นเติบโตไปสู่กลุ่มหุ้นคุณค่า เนื่องจากสภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังดำเนินต่อไป

“นักลงทุนต้องเปลี่ยนความคิดและเข้าใจว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนรวดเร็วเหมือนช่วงที่ผ่านมา พวกเขาไม่น่าจะได้เห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 20% ของหุ้น Apple (NASDAQ: AAPL) ภายในสองสามเดือนข้างหน้า” ซิลเวีย จาบล็อนสกี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Defiance ETFs กล่าว

2. ความล่มสลายของ Bitcoin

สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังคงร่วงลงต่อเนื่องในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่จีนประกาศว่า จะปราบปรามกิจกรรมการขุดและการซื้อขาย Bitcoin หน่วยงานด้านอุตสาหกรรมของจีนได้สั่งธนาคารและบริษัทผู้ให้บริการชำระเงิน ให้ยกเลิกบริการที่เกี่ยวกับธุรกรรมของสกุลเงินดิจิทัล

ทางด้านกระทรวงการคลังสหรัฐ ก็ได้ประกาศกฎระเบียบใหม่ ให้มีการรายงานธุรกรรมการโอนสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากไปยังหน่วยงานสรรพากร นอกจากนี้ เฟดยังได้กล่าวถึงความเสี่ยงของสกุลเงินดิจิทัลที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของตลาดการเงิน

นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดที่ประมาณ 65,000 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนเมษายน ราคา Bitcoin ก็เริ่มร่วงลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็กลับมาฟื้นตัวได้บ้างหลังจากที่ร่วงลงไปเกือบถึง 30,000 ดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์ของ Vanda Research ระบุว่า สถานะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Bitcoin และ Ethereum ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเทรดเดอร์รายย่อยบางส่วนอาจออกจากตลาดไปแล้ว “ฟองสบู่คริปโตเริ่มคลี่คลายและข้อมูลจากตลาดหุ้นต่าง ๆ ชี้ให้เห็นว่า บรรดาเทรดเดอร์รายย่อยเริ่มยอมจำนน”

3. กำไรของบริษัทต่าง ๆ

ช่วงแห่งการประกาศรายได้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังคงมีบริษัทค้าปลีกบางส่วนที่ยังไม่ได้ส่งรายงาน โดยเฉพาะบริษัท Best Buy, Costco และ Nordstrom

บริษัทอื่น ๆ ที่กำลังจะรายงานผลประกอบการ ได้แก่ NVIDIA, Salesforce.com และ Dell Technologies พร้อมด้วย Toll Brothers, Cracker Barrel, Pershing Square Holdings, Urban Outfitters, Abercrombie & Fitch, Dick's Sporting Goods, American Eagle Outfitters, Ulta Beauty, VMWare, Autodesk, Dollar General , Dollar Tree และ Medtronic

4. ข้อมูลเศรษฐกิจ

ข้อมูลสำคัญที่ต้องคอยจับตาในสัปดาห์นี้ คือ ข้อมูลรายได้ส่วนบุคคลและตัวเลขการใช้จ่าย ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์ รวมถึงดัชนีค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) หลัก ๆ ซึ่งไม่รวมการใช้จ่ายด้านอาหารและพลังงาน เป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญของเฟด สำหรับเป้าหมายเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นที่ 2% ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.8% ในช่วง 12 เดือนถึงเดือนมีนาคม

ข้อมูลดังกล่าวจะทดสอบความสามารถของเฟดต่อการคงสัดส่วนการซื้อสินทรัพย์ในระดับที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน เมื่อต้องเผชิญกับการฟื้นตัวทองเศรษฐกิจและปัญหาเงินเฟ้อ

ข้อมูลความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ราคาบ้าน และยอดขายบ้านใหม่ จะประกาศในวันอังคาร ขณะที่ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้น จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี

5. แถลงการณ์จากเฟด

ลาเอ็ล เบร็นนาร์ด จะพูดถึงนโยบายเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ในที่ประชุม CoinDesk Conference ในวันนี้ ความคิดเห็นของเธอจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกำลังเกิดความผันผวนในตลาดสกุลเงินดิจิทัลขณะนี้

ในขณะที่ ราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดแห่งแอตแลนตาและ เอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดแห่งแคนซัสซิตี้ ก็จะแถลงการณ์ในวันนี้เช่นกัน

ทางด้าน แรนดัล ควอเลส รองประธานเฟด มีกำหนดจะให้การเกี่ยวกับการกำกับดูแลและการควบคุมระบบการเงินของเฟด ต่อหน้าคณะกรรมการการธนาคารของวุฒิสภาในวันอังคาร

ถ้าโดนโบรกเกอร์ Forex โกงมาแนะนำให้คุณเข้าไปที่ การเปิดเผย ของแอพ WikiFX เพื่อแฉโบรกเกอร์ อย่าปล่อยให้คนโกงลอยนวล ยิ่งคุณแฉโบรกเกอร์จะยิ่งกลัว รีบบบบเลย แฉเรื่องถอนเงินไม่ได้ เรื่อนกราฟผิดปกติ Slippage มากกเกินไป ได้หมดทุกเรื่อง