ดอลลาร์ขึ้น แต่ยังใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในเช้าวันนี้ แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากยังคงให้ความสำคัญกับข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และ การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะประกาศในวันนี้

การเคลื่อนไหวยังคงเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอดูข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความผันผวนของตลาด

ข้อมูลด้านเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค ของเดือนพฤษภาคม ได้รับการคาดหวังอย่างมาก หลังจากรายงานของเดือนก่อนระบุว่าราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 12 ปีในเดือนเมษายน

จากการคาดการณ์โดย Investing.com ซึ่งคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้น 0.4% ทำให้นักลงทุนคาดว่าดัชนีราคาฯที่สูงขึ้น จะคงอยู่ต่อไปอีกนานกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก และทำให้เกิดความเคลือบแคลงในคำยืนยันของเฟดที่ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเป็นเพียงปัญหาชั่วคราว

แม้ว่าเงินดอลลาร์จะยังคงอยู่ในกรอบแคบ ๆ ก่อนประกาศข้อมูล แต่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีกลับร่วงลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงจาก 1.6350% เป็น 1.874%

“ดูเหมือนว่า สมดุลของความเสี่ยงจะโน้มเอียงไปที่การเปรียบเทียบตัวเลข CPI ของสหรัฐกับการคาดการณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดการเทขายพันธบัตร อันจักส่งผลให้ผลตอบแทนสูงขึ้นและตามมาด้วยการแข็งค่าของดอลลาร์ ตอนนี้ดูเหมือนจะมีการซื้อพันธบัตรมากเกินไปแล้ว” คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Pepperstone กล่าวในรายงาน

นักลงทุนยังมองหาสัญญาณว่าธนาคารกลางยุโรปจะเริ่มลดการซื้อสินทรัพย์ในการตัดสินใจด้านนโยบายหรือไม่ แม้ว่าจะมีการคาดหมายว่าธนาคารกลางจะรักษายังคงสถานะที่เป็นอยู่ในนโยบายของตนไว้ ซึ่งหากมีสัญญาณดังกล่าวเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโร

โดยค่าเงินได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ 1.2218 ดอลลาร์ในวันพุธ ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยและยังคงใกล้ระดับ 1.2178 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอ การตัดสินใจด้านนโยบายของเฟด ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์หน้า

ทางด้านเงินคริปโต ราคา Bitcoin ยังคงรักษาระดับจากภาวะขาขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสี่เดือน โดยซื้อขายล่าสุดที่ระดับ 37,097.02 ดอลลาร์ หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 12% เมื่อวานนี้