简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดย Yasin Ebrahim Investing.com – ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเมื่อวานนี้ เนื่องจากเม็ดเงินจำนวนมากไหลคืนส
โดย Yasin Ebrahim
Investing.com – ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเมื่อวานนี้ เนื่องจากเม็ดเงินจำนวนมากไหลคืนสู่บรรดาหุ้นวัฏจักรและหุ้นมูลค่าของตลาด จากการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงหลังจากได้รับผลกระทบจากเฟดในสัปดาห์ที่แล้ว
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.8% หรือ 586 จุด ส่วน ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.4% และ ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 0.79%
กลุ่มพลังงานทำให้ตลาดในวงกว้างปรับตัวสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นถึง 4% เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดิมพันความต้องการน้ำมันที่สูงขึ้น ในขณะที่แนวโน้มที่อุปทานของอิหร่านจะกลับมาถูกเลื่อนออกไปอีกหลังจากนายเอบราฮิม เรสซี ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศ
เรสซีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อิหร่านจะ “ไม่ยอมให้การเจรจาสูญเปล่า” และจะไม่ยกเลิกการประชุมใด ๆ กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน
หุ้นกลุ่มธนาคารก็อยู่ในกลุ่มที่ทำกำไรสูงสุดเช่นกัน ซึ่งช่วยผลักดันกลุ่มการเงินในวงกว้างหลังจากการร่วงลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้น โดย พันธบัตรอายุ 10 ปี ซื้อขายใกล้ระดับ 1.5% หลังจากที่ตกลงมาต่ำสุดที่ 1.35% ระหว่างวัน
ราคาหุ้น Bank of America (NYSE:BAC) และ JPMorgan (NYSE:JPM) เพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ขณะที่ Wells Fargo (NYSE:WFC) พุ่งขึ้นเกือบ 4%
ความสนใจที่เปลี่ยนไปยังกลุ่มหุ้นคุณค่า ส่งผลกระทบต่อบรรดาหุ้นเติบโต โดยหุ้นเทคโนโลยียังคงได้รับผลพวงจากการตกต่ำของตลาดในช่วงที่ผ่านมา
ราคาหุ้น Alphabet (NASDAQ:GOOGL), Microsoft (NASDAQ:MSFT, Apple (NASDAQ:AAPL) และ Facebook (NASDAQ:FB ) ทรงตัว ขณะที่ Amazon.com (NASDAQ:AMZN) ติดลบ
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนพลิกกลับมาเป็นเชิงบวก หลังเกิดสัปดาห์ที่แย่ที่สุดสำหรับตลาดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม เนื่องจากเฟดแสดงท่าทีว่าจะเริ่มบังคับใช้นโยบายที่เข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์เมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีความเห็นแตกแยกว่าควรเริ่มใช้นโยบายที่เข้มงวดเร็วเพียงใด
จอห์น วิลเลียมส์ เจ้าหน้าที่เฟดในนิวยอร์ก (NYSE:WMB) กล่าวว่า มันยังเร็วเกินไปที่เฟดจะเริ่มกระชับนโยบายแม้จะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง “ข้อมูลและสภาพเศรษฐกิจยังไม่คืบหน้าเพียงพอสำหรับคณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐ (FOMC) ที่จะเปลี่ยนจุดยืนนโยบายการเงินที่สนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ” เขากล่าวเสริม
ความเห็นของขัดแย้งกับคำกล่าวของเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์ ที่กล่าวเมื่อวันศุกร์ระหว่างการให้สัมภาษณ์ผ่าน CNBC ว่า ผมอยากให้เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2022 ผมคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 3% ภายในปีนี้ และอัตราเงินเฟ้อของราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานจะแตะระดับ 2.5% ในปี 2022
ถึงแม้จะมีการคาดว่านโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นจะส่งผลต่อการประเมินมูลค่าหุ้นในปีหน้า บริษัทต่าง ๆ ก็คาดว่าจะสร้างรายได้เพียงพอที่จะขับเคลื่อนตลาดให้ปรับตัวสูงขึ้น
“เราคาดว่ารายได้จะช่วยผลักดันผลตอบแทนในปี 2022 เราคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นในดัชนี S&P 500 จะเพิ่มขึ้นเป็น 220 ดอลลาร์ในปี 2022 แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลต่อค่า P/E ในปีนั้นก็ตาม” Wells Fargo ระบุในรายงาน
ในรายงานยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า “เป้าหมายราคาเฉลี่ย ณ สิ้นปีสำหรับดัชนี S&P 500 คือ 4,900” ซึ่งถือว่ามีอัพไซด์ประมาณ 14% จากระดับปัจจุบัน
ในข่าวปลีกย่อยอื่น ๆ ราคาหุ้นของ DoorDash (NYSE:DASH) พุ่งขึ้นมากกว่า 3% หลังจากร่วมมือกับบริษัท Albertsons เพื่อให้บริการจัดส่งสินค้าด่วนพิเศษภายในวันเดียว จากร้านค้าเกือบ 2,000 แห่ง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Vantage
FP Markets
Tickmill
ATFX
IC Markets Global
IQ Option
Vantage
FP Markets
Tickmill
ATFX
IC Markets Global
IQ Option
Vantage
FP Markets
Tickmill
ATFX
IC Markets Global
IQ Option
Vantage
FP Markets
Tickmill
ATFX
IC Markets Global
IQ Option