ตลาดหุ้นฟื้นตัว หลังพาวเวลล์สร้างความเชื่อมั่น นำขบวนโดยหุ้น Tech

Investing.com - รอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวและตลาดพันธบัตรเริ่มทรงตัวได้ในวันนี้ จากการที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนว่า เฟดคอยจับตาดูภาวะเงินเฟ้ออยู่และไม่รีบเร่งในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี NASDAQ Composite ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีแรงซื้ออย่างมากในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไต้หวันซึ่งราคาหุ้นผู้ผลิตชิปรายใหญ่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ขณะที่ดัชนีหุ้นเอเชียแปซิฟิกของ MSCI นอกประเทศญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นทรงตัว

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี S&P 500 ขยับขึ้นประมาณ 0.2% ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี EuroSTOXX 50 ในยุโรปลดลงประมาณ 0.2%

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดทำให้ตลาดหุ้นร่วงกราวและทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ด้วยการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน่าประหลาดใจในปี 2023

อย่างไรก็ตาม ในชั่วข้ามคืน พาวเวลล์ย้ำเป้าหมายของเฟดในการฟื้นตัวของตลาดแรงงานในวงกว้างและกล่าวว่าความกลัวเรื่องเงินเฟ้อเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย

“เราจะรอหลักฐานของอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจริงหรือความไม่สมดุลในด้านอื่นด้วย” พาวเวลล์กล่าวในการแถลงการณ์ต่อหน้าคณะผู้แทนของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา

เชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ AMP (OTC:AMLTF) ได้เขียนข้อความถึงลูกค้าว่า “นี่เป็นหนทางที่ยังอีกยาวไกล แม้แต่การขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกก็ยังอีกไกล”

ความเห็นของพาวเวลล์ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลง และทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงมาอยู่ที่ 1.4666% ในวันอังคาร ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยตามข้อมูลของ MarketWatch

เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยในชั่วข้ามคืน แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนหลังจากที่เฟดปรับท่าทีอันทำให้เกิดการปิดสถานะ Short จำนวนมาก

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยล่าสุดซื้อขายสูงขึ้น 0.1% ที่ 1.1928 ดอลลาร์ต่อยูโร ตามรายงานของ XE บริษัทแลกเปลี่ยนเงินตรา และใกล้ระดับสูงสุดสำหรับปีที่ 110.80 เยน

นักวิเคราะห์จาก Societe Generale (OTC:SCGLY) ระบุว่า “นักลงทุนที่ Short เงินดอลลาร์ตามนโยบายเดิมของเฟด กำลังใกล้จะถึงจุดจบแล้ว”

“หากสหรัฐหลีกเลี่ยงอัตราดอกเบี้ยที่เป็นศูนย์ได้ เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”

การประชุมเดือนกันยายน

เจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายคนมีกำหนดจะแถลงการณ์ในวันนี้ และความคิดเห็นของพวกเขาอาจเพิ่มความรู้สึกที่เพิ่มมากขึ้นในหมู่เทรดเดอร์ว่า การประชุมเฟดในเดือนกันยายนอาจนำมาซึ่งการประกาศจุดเริ่มต้นของระงับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี

ทอม พอซเชลลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ RBC Capital Markets กล่าวว่า “มีบางอย่างผิดปกติอย่างมาก การลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ดูเหมือนจะเป็นไปได้สูง”

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวสุนทรพจน์จากลูซี่ เอลลิส ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งออสเตรเลีย ซึ่งเป็นนายธนาคารรายแรกนับตั้งแต่มีการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในเดือนนี้ และจากคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป

ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น ซึ่งแสดงให้เห็นการชะลอตัวในญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายน จะมีการเผยแพร่ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเช่นกัน และจะถูกจับตามองในขณะที่ตลาดพยายามที่จะเข้าใจถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจที่อยู่เบื้องหลังราคาที่สูงขึ้น

ฮิวจ์ ไดว์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Atlas Funds Management (NYSE:ATCO) ในซิดนีย์กล่าวว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่เราเห็นองค์ประกอบของอัตราเงินเฟ้อคืบคลานเข้ามาในขณะที่เศรษฐกิจกำลังไปได้สวย ซึ่งไม่ใช่ภาวะซบเซาแบบยุค 1970”

ทางด้านเงินคริปโต มีการพยายามที่จะปรับตัวหลังจากถูกเทขายอย่างหนัก ซึ่งทำให้ราคา Bitcoin ต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม และดีดกลับมายืนเหนือราคา 30,000 ดอลลาร์ โดยซื้อขายอยู่ที่ราคา 34,203 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 06:18 GMT

ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ความเชื่อมั่นที่กลับมาอีกครั้งช่วยให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายปี แม้ว่าผู้ผลิตจะหารือถึงการเพิ่มปริมาณการผลิตก็ตาม

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.72% สู่ 75.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTIของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.56% เป็น 73.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทางด้านทองคำ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดรายได้ ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตร ทรงตัวอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์