简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การอัปเดตความคืบหน้าในคดีการฟ้องร้อง Ripple ล่าสุดเผยให้เห็นว่า จำเลย Bradley Garlinghouse CEO ของ R
การอัปเดตความคืบหน้าในคดีการฟ้องร้อง Ripple ล่าสุดเผยให้เห็นว่า จำเลย Bradley Garlinghouse CEO ของ Ripple ได้ยื่นหนังสือคำร้องต่อศาลเพื่อขอเอกสาร Binance Holdings Limited จากทางการหมู่เกาะเคย์แมนที่ “เกี่ยวข้องกับคดีนี้และไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขได้ด้วยวิธีอื่น” อนุสัญญากรุงเฮก คำร้องขอนี้อยู่ภายใต้อนุสัญญากรุงเฮกที่กำหนดร่างขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 1970 เกี่ยวกับการสืบพยานในต่างประเทศ โจทก์กำลังใช้อนุสัญญากรุงเฮกเพื่อรวบรวมเอกสารและข้อมูลจากต่างประเทศ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมของ XRP บนแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ใช้ในการยื่นฟ้องนาย Garlinghouse ก่อนหน้านี้ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ตามมาตรา 5 ของ ก.ล.ต. อาจเป็นโมฆะ ทนายความของ Ripple ได้ยื่นคำร้องขอเพื่อขอคัดค้านข้อเรียกร้องของ SEC ภายใต้มาตรา 5 ของกฎหมายหลักทรัพย์ปี 1933 โดย Sec กล่าวหาว่านาย Garlinghouse ได้ละเมิดกฏหมายหลักทรัพย์ โดยการขายเหรียญ XRP จำนวน 357 ล้านหน่วยบนแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล “ทั่วโลก” เช่น Binance ให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ดีมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ 1933 จะใช้ได้เฉพาะกับการเสนอขายหลักทรัพย์ภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งเป็นการขัดต่อข้อเรียกร้องของ ก.ล.ต. เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ทั่วโลก นอกจากนี้ จำเลยยังร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งติดตามการเคลื่อนไหวธุรกรรมในอดีตของพวกเขาอีกด้วย เนื่องจากหน่วยงานก.ล.ต. ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า Ripple มีขายหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา คดีการฟ้องร้อง Ripple ได้กลายเป็นหนึ่งการฟ้องคดีที่ฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ คริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ตำหนิโทษตัวเอง เป็นเหตุทำให้ SEC ดูอ่อนแอและเริ่มหมดความน่าเชื่อถือ ที่มา : ลิงก์
กดอ่านข่าว ทนายความ Ripple โผล่ยื่นคำร้องขอเอกสารจาก Binance หรือว่านี่จะเป็น “ตัวพลิกเกม” ในคดี ต่อที่ Siam Blockchain
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ