简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:นาย ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ CEO และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ iTAX ซึ่งเป็นโซลูชันด้านภาษี ได้ออกมาเสนอให้ประเทศไทยยกเว้นการเก็บภาษีคริปโตบนเฟสบุ๊คส่วนตัวของเขา
ท่ามกลางกระแสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Cryptocurrency ที่กำลังร้อนแรงในปัจจุบัน สำหรับในประเทศไทยเองก็มีผู้ที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากที่ได้เข้าถือหรือครอบครองโทเคนดิจิทัล รวมถึงการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีหรือโทเคนดิจิทัล
สำหรับการจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนประเภทนี้ ประเทศไทยได้มีการออกกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ในการเสียภาษีของนักลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ 19 พ.ศ.2561 ซึ่งมีผลใช้บังคับมานับตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 แล้ว ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน แนวทางปฏิบัติเพื่อการจัดเก็บภาษีจากเงินได้ประเภทดังกล่าวอาจจะยังมีคำอธิบายหรือตัวอย่างในการจัดเก็บภาษีไม่มากนักก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากฎหมายการจัดเก็บภาษีคริปโตจะมีออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว แต่ถึงกระนั้นทางด้านกูรูภาษีชื่อดังในไทยก็รู้สึกไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเก็บภาษีคริปโตดังกล่าว และได้แนะนำให้รัฐบาลยกเลิกการเก็บภาษี คริปโต พร้อมชี้ให้เห็นว่ามันมีผลเสียมากกว่าผลดี
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา นาย ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ CEO และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ iTAX ซึ่งเป็นโซลูชันด้านภาษีที่ช่วยให้ทุกอย่างเกี่ยวกับภาษีเป็นเรื่องง่ายสำหรับชาวไทย ได้ออกมาเสนอให้ประเทศไทยยกเว้นการเก็บภาษีคริปโตบนเฟสบุ๊คส่วนตัวของเขา ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
จากข้อความข้างต้น นาย ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ ได้ชี้ให้เห็นว่า ทุกวันนี้คนไทยได้หันไปใช้เว็บเทรดคริปโตในต่างประเทศอย่าง Binance กันเยอะมากขึ้น และเงินก็ได้ไหลออกนอกประเทศไปแล้ว ด้วยวิธีการในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนแบบ P2P ซึ่งในตรงจุดนี้รัฐบาลไม่สามารถควบคุมหรือจัดเก็บภาษีได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นนาย ยุทธนา จึงเสนอให้ประเทศไทยเปลี่ยนกลายไปเป็น Hub สำหรับการเทรดคริปโตแทน หรือให้การสนับสนุนคริปโตอย่างเต็มที่ไปเลย เพราะสิ่งนี้ทำให้คนไทยหันกลับมาซื้อขายคริปโตในเว็บเทรดของไทยกันมากขึ้นนั่นเอง
แน่นอนว่ารัฐบาลอาจไม่ได้รับเงินภาษีจากนักเทรดรายย่อยโดยตรง แต่ในส่วนที่รัฐบาลจะได้รับกลับไปก็คือ เงินลงทุนที่จะหมุนเวียนอยู่ในประเทศไทย ในเว็บเทรดคริปโตของไทย และรัฐบาลจะสามารถเรียกเก็บเงินภาษีคริปโตได้จากผู้ประกอบการเหล่านี้แทน
ในขณะเดียวกันด้านบริษัทเว็บเทรดคริปโตก็จะมีกำไรมากขึ้น จากค่าธรรมเนียมจากการซื้อขาย แม้จะเสียภาษีในไทยเพิ่มขึ้น แต่พวกเขาก็สามารถนำกำไรในส่วนนี้มาพัฒนาต่อยอดบริษัทให้ก้าวไกลไปสู้ในระดับโลกได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ Win Win ทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้นาย ยุทธนา ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากเราเป็น hub เรื่องนี้ได้ เราน่าจะดึงดูดบุคคลากรต่างประเทศให้สนใจเข้ามาทำงานให้บริษัทไทยได้เพิ่มขึ้น และเมื่อพวกเขาทำงานอยู่ในบริษัทไทย ได้เงินเดือนสูง ๆ รัฐบาลไทยก็จะสามารถเรียกเก็บภาษีเงินได้จากค่าจ้างของบุคคลเหล่านี้ได้ด้วย แม้ว่าบุคลากรเหล่านี้จะไม่ต้องเดินทางเข้ามาในไทยเลยก็ตาม
แอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ มีฟีเจอร์โดนๆ สำหรับนักลงทุน อย่าง การตรวจสอบ Exchange และ Token เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการลงทุนของคุณนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่คุณกดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้นตามที่ได้แจ้งข้อมูลกับทาง ก.ล.ต. เพื่อขอใบอนุญาต ถือว่าครบจบในแอปเดียว อย่ารอช้าโหลดเลย!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
FP Markets
Neex
OANDA
GO MARKETS
VT Markets
ATFX
FP Markets
Neex
OANDA
GO MARKETS
VT Markets
ATFX
FP Markets
Neex
OANDA
GO MARKETS
VT Markets
ATFX
FP Markets
Neex
OANDA
GO MARKETS
VT Markets
ATFX