简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:5 ปัจจัยที่ต้องจับตาสัปดาห์นี้: ข้อมูลสหรัฐ, GDP จีน, Bitcoin ETF
รายงานผลประกอบการระลอกแรกทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลมากมายในสัปดาห์ที่กำลังจะถึงนี้ ในขณะที่ข้อมูลของสหรัฐฯ อาจช่วยให้ความคาดหวังของธนาคารกลางสหรัฐเริ่มลดลง ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่สามที่จะออกในวันจันทร์นี้ จะแสดงให้เห็นผลกระทบที่เกิดจากพื้นที่เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในช่วงท้ายของสัปดาห์อาจช่วยเสริมความคาดหวังที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะเพิ่มขึ้นสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะเดียวกัน ETF ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Bitcoin กำลังจะเปิดให้เริ่มซื้อขาย ผลักดันให้สกุลเงินดิจิตอลเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และนี่คือ 5 สิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์ลงทุน
1. ผลประกอบการ
บริษัทหลายสิบแห่งจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้ รวมถึง Tesla (NASDAQ:TSLA), Intel (NASDAQ:INTC) และ Johnson & Johnson (NYSE:{{8177|JNJ} }) หลังบริษัทส่วนนึงในตลาดหุ้นได้ประกาศประกอบการไตรมาสที่สามไปก่อนหน้านี้แล้ว
ในวันพฤหัสบดี Netflix (NASDAQ:NFLX) เริ่มการรายงานไตรมาสที่สามสำหรับกลุ่ม 'FAANG' ของสหรัฐอเมริกา ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี Facebook (NASDAQ:FB), Apple (NASDAQ:AAPL), Amazon (NASDAQ:AMZN), Netflix และ Alphabet (NASDAQ: GOOGL)
บริษัทสตรีมมิ่งวิดีโอกล่าวว่า “Squid Game” ได้กลายเป็นซีรีส์ที่เปิดตัวครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และ Bloomberg รายงานว่าซีรีส์ดังกล่าวจะสร้างมูลค่าเกือบ 900 ล้านดอลลาร์ให้กับ Netflix
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ และดาวโจนส์เพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังจากที่ Goldman Sachs(NYSE:GS) เริ่มต้นผลประกอบการไตรมาส 3 อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่านักลงทุนจะยังคงจับตาสัญญาณของผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนที่สูงขึ้นในภาคพลังงาน
2. ข้อมูลสหรัฐอเมริกา
สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมในวันจันทร์ ตามด้วยรายงานการอนุญาตที่อยู่อาศัยและการก่อสร้างอาคารในวันอังคาร
การผลิตภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน แต่ข้อมูลที่อยู่อาศัยคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง โดยการเพิ่มขึ้นของคำขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ไปที่การฟื้นตัวของกิจกรรมหลังจากการชะลอตัวเล็กน้อยในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน
หนังสือสีเบจของเฟดจะครบกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ และอาจทำให้ความคาดหวังลดวงเงินของเฟดลดลง รายงานการประชุมในเดือนกันยายนของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าการประกาศในเดือนพฤศจิกายนยังอยู่ในแผน และการลดวงเงินอาจเริ่มในช่วงปลายเดือนเดียวกัน
3. GDP ของจีน
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากวิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดจาก Evergrande การระบาดของสายพันธุ์เดลต้า รวมถึงวิกฤตด้านพลังงาน ปัญหาคอขวดของอุปทาน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น
นักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 3 ที่จะเผยแพร่ในวันจันทร์อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเปิดเผยควบคู่ไปกับตัวเลขการผลิตในโรงงานและยอดค้าปลีก
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าการเติบโตของพื้นที่เศรษฐกิจอันดับสองของโลกจะชะลอตัวลงเหลือ 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งช้าที่สุดในรอบปี จาก 7.9% ในไตรมาสก่อนหน้า
ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโต กำลังสั่นคลอนจากการผิดนัดชำระที่เพิ่มขึ้น โดยเกิดจากยอดขายที่ร่วงลงและการก่อสร้างที่ชะลอตัวในขณะที่ Evergrande (HK:3333) ซึ่งเคยเป็นนักพัฒนาอสังหาอันดับต้น ๆ ของจีนได้ผิดนัดชำระหนี้มากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์แล้ว
4. Bitcoin ETF
ETF สำหรับ Bitcoin ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ รายแรกจะเปิดตัวในสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้ แม้มีการคัดค้านในนาทีสุดท้ายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
กองทุน ProShares Bitcoin Exchange Traded Fund มีกำหนดจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในวันอังคารนี้ และอีกหนึ่งวันถัดมา ETF ของ Invesco Bitcoin Strategy จะได้รับอนุญาตให้เปิดตัวเว้นแต่สำนักงาน ก.ล.ต. จะสั่งห้ามซื้อขาย
ETFs จะขึ้นอยู่กับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Bitcoin ที่ซื้อขายใน Chicago Mercantile Exchange มากกว่าที่จะเป็นสกุลเงินดิจิตอล ท่ามกลางความกังวลด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับการขาดสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้นและความเสี่ยงของการปรับราคาในการแลกเปลี่ยนแบบสปอต
การเปิดตัว ETF อาจเป็นการปูทางสำหรับกระแสของผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการเพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย Bitcoin แตะระดับสูงสุดที่ 62,892 ดอลลาร์ในวันศุกร์ อยู่ไม่ไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 64,778 ดอลลาร์ที่เคยทำได้ในปีนี้
5. อัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักร
ข้อมูลในวันพุธคาดว่าจะชี้ไปที่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคของสหราชอาณาจักรในรอบเกือบ 9 ปีในเดือนกันยายน โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี
รายงานจะถูกจับตามองว่าจะเพิ่มความคาดหวังให้ธนาคารแห่งสหราชอาณาจักร(BOE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นหรือไม่ โดยอาจกลายเป็นธนาคารกลางรายใหญ่แห่งแรกที่ทำเช่นนั้นตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19
ราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นและปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทานทำให้ BOE คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเกิน 4% ณ สิ้นปีและยังคงอยู่ที่ระดับนั้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2565
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเป็น 1.56% กดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการเติบโต ขณะที่นักลงทุนหนีซื้อหุ้นมูลค่า ธนาคารกลางกำลังเตรียมที่จะผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
หุ้นปรับตัวลดลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นโดย แนสแด็กได้รับความนิยมมากที่สุด
3 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ตัวเลขผลประกอบการ, ตัวเลยความเชื่อมั่นผู้บริโภค, คำให้การของเฟด
Pepperstone
Vantage
STARTRADER
Tickmill
FOREX.com
FBS
Pepperstone
Vantage
STARTRADER
Tickmill
FOREX.com
FBS
Pepperstone
Vantage
STARTRADER
Tickmill
FOREX.com
FBS
Pepperstone
Vantage
STARTRADER
Tickmill
FOREX.com
FBS