ตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัวใกล้จุดสูงสุด ผลประกอบการกระตุ้นความกระหายความเสี่ยง

โดย Oliver Gray

ดัชนีหุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ซื้อขายล่วงหน้าในช่วงเช้าของเอเชียแปซิฟิก ในวันพุธ โดยดัชนีหลักซื้อขายใกล้ระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq Composite ปรับตัวขึ้นเป็นช่วงที่ 5 ติดต่อกัน ทำกำไรต่อเนื่องแข็งแกร่งกว่าคาด จากผลประกอบการจากบริษัทใหญ่ ๆ ที่หนุนความกระหายความเสี่ยงของนักลงทุน

ในวันอังคาร ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 198.7 จุดหรือ 0.56% เป็น 35457.32 ดัชนี S&P 500 เพิ่ม 33.17 จุดหรือ 0.74% ปิดที่ 4519.64 ขณะที่ Nasdaq Composite ขยับขึ้น 107.28 จุดหรือ 0.71% ปิดที่ 15129.09

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 19 จุด สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.07% ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 ทรงตัว

ในบรรดาหุ้นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ หุ้น Johnson & Johnson (NYSE:JNJ) ปิด 2.34% ระหว่างการซื้อขายปกติ หลังผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดไว้ ในขณะที่ Procter and Gamble ร่วงลง 1.88% Netflix (NASDAQ:NFLX) ปรับตัวลดลง 0.95% เนื่องจากบริการสตรีมมิ่งเผยผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 4.4 ล้านรายในช่วงเวลาดังกล่าว United Airlines เพิ่มขึ้น 2.01% จากผลประกอบการรายไตรมาสซึ่งเกินความคาดหมาย เนื่องจากความต้องการการเดินทางยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้านตลาด ETF ที่เชื่อมโยงกับ Bitcoin เริ่มซื้อขายในวันอังคาร Bitcoin ETF มีแนวโน้มหนุนราคา Bitcoin ใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 64,350 ดอลลาร์สหรัฐ

ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ท่ามกลางความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์ในเดือนหน้า ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นและความกลัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

ด้านข้อมูล ที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิด 1.6% เมื่อเทียบปีต่อปี ปรับอัตราประจำปีอยู่ที่ 1.555 ล้านในเดือนกันยายนปี 2564 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ที่ 1.62 ล้าน เป็นค่าที่อ่านได้ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ข้อจำกัดด้านอุปทาน และการขาดแคลนแรงงานสูง