简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดย Gina Lee Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในเช้าวันพฤหัสบดีในเอเชีย โดยอ่อนค่าลงเมื่อเท
โดย Gina Lee
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในเช้าวันพฤหัสบดีในเอเชีย โดยอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินปอนด์สเตอร์ลิง เนื่องจาก นนโยบายจากธนาคารกลางสหรัฐฉบับล่าสุด เริ่มลดระดับสินทรัพย์ แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยให้ทรงตัว
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ได้จากการเทียบค่าเงินดอลลาร์กับสกุลเงินอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 0.15% เป็น 94.060
ค่าเงินเยน ขยับขึ้น 0.20% เป็น 114.20 เยนต่อดอลลาร์
ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขยับขึ้น 0.12% เป็น 0.7454 ในขณะที่ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขยับลง 0.06% เป็น 0.7154
ค่าเงินหยวน ขยับลง 0.19% เป็น 6.3941 หยวนต่อดอลลาร์ และ ค่าเงินปอนด์ ขยับลง 0.18% เป็น 1.3659 ปอนด์ต่อดอลลาร์
เฟดส่งมอบการตัดสินใจด้านนดยบายในวันพุธ โดยประกาศว่าจะเริ่มลดสินทรัพย์ลงในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวเสริมว่าธนาคารกลางจะ “อดทน” กับตารางเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.51% ในวันพุธ หลังการตัดสินใจของเฟด โดยฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ของวันอังคารที่ 1.3603 ดอลลาร์ เงินยูโรพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.161 ยูโรต่อดอลลาร์ พุ่งขึ้นในวันพุธเช่นกัน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.29% ในวันนั้น
ขณะนี้ความสนใจอยู่ที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยมีความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงอาจอยู่นานกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ในตอนแรก
“พาวเวลล์เน้นว่าการประชุมของเฟดครั้งนี้เป็นการผ่อนคลายเชิงปริมาณมากกว่าอัตราดอกเบี้ย แต่นี่จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายเป็นการหาเหตุผลสนับสนุนให้คงอยู่ จากนี้ไป การประชุมเฟดในอนาคตจะกลับไปเน้นที่กลยุทธ์รับมือกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด” พอล โอคอนเนอร์ หัวหน้ากลุ่มนักลงทุนของ Janus Henderson Investors กล่าวกับรอยเตอร์ส
ธนาคารกลางอังกฤษ จะส่งมอบการตัดสินใจด้านนโยบายในภายหลัง ซึ่งเป็นรายสุดท้ายในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางหลายแห่ง
BOE อาจเป็นธนาคารกลางแห่งแรกที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตาม มีความเห็นแตกแยกกันในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับการตัดสินใจของ BOE
ในเอเชียแปซิฟิก เงินดอลลาร์ออสเตรเลียฟื้นตัวจากการอ่อนค่าลง 1.2% ในวันอังคาร หลังจากที่ ธนาคารกลางออสเตรเลีย รักษาอัตราดอกเบี้ยให้คงที่หลังส่งมอบนโยบาย
ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงในวันนี้ อยู่ที่ 33.415 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่า ต้องจับตาแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอย่างใกล้ชิดต่อ เพราะเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าราว 3-4% ในช่วง 6 เดือนก่อนการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก จากสถิติในอดีตของการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก 3 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟด อาจส่งผลกระทบให้เงินบาทผันผวนในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าได้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ประเทศไทยก็ต้องลุ้นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ เรามองว่า หากการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดี การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังปีหน้า ก็อาจไม่ได้กดดันเงินบาทมากนัก และเงินบาทก็มีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้บ้าง โดยเราประเมินว่า เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2023
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
EC Markets
GO MARKETS
Octa
IC Markets Global
Tickmill
Vantage
EC Markets
GO MARKETS
Octa
IC Markets Global
Tickmill
Vantage
EC Markets
GO MARKETS
Octa
IC Markets Global
Tickmill
Vantage
EC Markets
GO MARKETS
Octa
IC Markets Global
Tickmill
Vantage