ตลาดหุ้นสหรัฐขาดทุนครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ จากความกลัวเงินเฟ้อ

ดัชนีหุ้นสหรัฐปิดตัวลงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่แล้ว โดยร่วงครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากได้รับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยอัตราเงินเฟ้อประจำปีสูงขึ้นสูงสุด 31 ปีเมื่อวันพุธที่แล้ว ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ

ในช่วงวันศุกร์ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 179.08 จุดหรือ 0.5% ปิดที่ 36,100.31 S&P 500 เพิ่มขึ้นประมาณ 0.7% ที่ 4,682.85 Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1% ที่ 15,860.96 สำหรับสัปดาห์นี้ ดาวโจนส์ร่วงลง 0.6%, S&P 500 ลดลง 0.3% และ Nasdaq Composite ซื้อขายลดลงประมาณ 0.7%

ในบรรดาหุ้นที่น่าสนใจ Tesla ลดลง 2.83% หลังจาก อีลอน มัสก์ ขายหุ้นมูลค่ารวม 6.9 พันล้านดอลลาร์ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พุ่งขึ้น 1.2% และประกาศแผนเมื่อวันศุกร์ที่จะแยกธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคออกจากการดำเนินงานด้านเภสัชกรรมและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้เกิดบริษัทจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สองแห่ง ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยียังยก Meta หรือ Facebook ขึ้น 4% Apple เพิ่มขึ้น 1.43%, Google บวก 2%, Microsoft เพิ่มขึ้น 1.29% และ Amazon ซื้อขายสูงขึ้น 1.52%

ด้านตลาดตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ 1.566%

ด้านข้อมูลที่น่าจับตา ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554 ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่จำนวนคนงานที่ออกจากงานโดยสมัครใจเพิ่มขึ้น 4.4 ล้านคนในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่มีข้อมูลในปี 2543