简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เปิดเบื้องลึกปฏิบัติการถล่มหุ้น MORE โบรกเกอร์แบกความเสี่ยงกว่า 3,000 ล้านบาท !!
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นที่ทำให้นักลงทุน “แตกตื่น” และวิพากษ์วิจารณ์กันหนัก คงหนีไม่พ้น “การดิ่งฟลอร์” (Floor) 2 วันติดของหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE หรือชื่อเดิมคือ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA เคยมีข่าวฉาวโฉ่เกี่ยวกับการฉ้อโกงบิตคอยน์จากนักธุรกิจต่างประเทศ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อใหม่พร้อมปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2562 กลายมาเป็น บริษัท มอร์ รีเทิร์น (MORE) ในปัจจุบัน โดยราคาแรกเริ่มของ หุ้น MORE อยู่ที่หุ้นละ 0.30 บาท ก่อนจะถูกไล่ราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นมาสูงสุดที่ 2.98 บาทต่อหุ้น แต่ผลดำเนินงานกลับสวนทางราคาหุ้น สะท้อนผ่านผลดำเนินงานของบริษัทที่ขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง
สำหรับการโยนคำสั่งซื้อขายหุ้น MORE ในราคา ATO ที่หุ้นละ 2.90 บาทนั้น น่าจะมีการวางแผนมานานแล้ว โดยให้นอมินีเปิดบัญชีไว้กับโบรกเกอร์หลายสิบแห่ง ใช้หุ้น MORE เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และขอวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อหุ้นหรือมาร์จิ้น โดยเมื่อนำหุ้น MORE วางเป็นหลักประกัน 50 ล้านหุ้น สามารถสั่งซื้อหุ้น MORE ได้ 150 ล้านหุ้น
ขณะเดียวกัน ได้ให้นอมินี นำหุ้น MORE จำนวนกว่า 1,531 ล้านหุ้น ไปเปิดบัญชีไว้กับโบรกเกอร์อีกหลายสิบแห่ง และนัดหมายกันในวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน โดยนอมินีที่เปิดบัญชีไว้กับโบรกเกอร์ประมาณ 11 ราย จะสั่งซื้อหุ้นช่วง ATO ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท จำนวนรวมกัน 1,531.77 ล้านหุ้น ส่วนนอมินีฝั่งขาย และเตรียมหุ้นไว้ในพอร์ตที่เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์กว่า 20 แห่ง จะตั้งขายในราคาเปิด อธิบายตามสเต็ปดังนี้
1. รายใหญ่ต้องการขายหุ้นหมดเลยในทีเดียว รายใหญ่จะได้เงินสดมา 4,500 ล้านบาท ซึ่งรายย่อยไม่มีเงินที่จะรับซื้อหุ้นปริมาณมากขนาดนั้นได้อยู่แล้ว
2. รายใหญ่เลยสร้างดีมานด์เทียม โดยให้นอมินีมารับหุ้น โดยกระจายนอมินีไปหลายๆบัญชี หลายโบรกเกอร์ ให้นอมินีมารับซื้อหุ้นทั้งหมด
3. ความบรรลัยเกิดขึ้น เมื่อเงินที่มาสร้างดีมานด์เทียม 4500 ล้านบาท ดันเป็นเงินกู้ยืมจากโบรกโดยมันใช้หลักทรัพย์ของตนเองค้ำประกันไว้ประมาณ1,500ล้านบาท ในวงการเขาเรียกว่าบัญชีมาร์จิ้น กู้เงินกระจายไป11 โบรกเกอร์ (หรือมากกว่านี้)
4. เมื่อขายเสร็จตั้งแต่วันพฤหัสระบบตลาดหุ้นจะชำระเงินค่าซื้อสองวันทำการถัดไป (T+2) นั่นก็คือวันจันทร์นี้เวลา 12.00 น และฝ่ายที่ขายหุ้นก็จะได้รับเงินสด 4,500 ล้านบาทในวันเดียวกัน
5. สมมุติว่ามันทำสำเร็จ ได้เงินค่าขายหุ้น 4,500 ล้านบาท รายใหญ่จะให้นอมินีเบี้ยวไม่จ่ายชำระค่าหุ้น และทิ้งหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่า 1,500 ล้านบาท
6. บวกลบกันแล้วได้กำไรเน้นๆ 3,000 ล้านบาท แล้วหนี
งานนี้จึงเป็นการนำเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท ไปแลกกับเงินจำนวนประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งหักแล้วจะมีส่วนต่างคงเหลือประมาณ 3,000 ล้านบาท และเป็นกำไรที่เกิดขึ้นบนความย่อยยับของโบรกเกอร์ประมาณ 30 ราย ถ้าไม่สามารถระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้น MORE ในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายนนี้ได้ อาจมีโบรกเกอร์หลายเบอร์ต้องล้มตาย เพราะขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่สามารถชำระราคาหุ้นที่สั่งซื้อได้ ส่วนนักลงทุนขาใหญ่จะกวาดเงินก้อนโตจำนวน 3,000 ล้านบาทออกไปอย่างลอยนวล
เป็นที่น่าสังเกตว่า หุ้น MORE ที่ทำรายการ ATO จำนวน 1,531.77 ล้านหุ้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นจำนวนใกล้เคียงกับหุ้นที่นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ MORE ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง โดยถือหุ้น MORE จำนวนทั้งสิ้น 1,547.20 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 23.69% ของทุนจดทะเบียนไม่สามารถระบุว่าเสี่ยม้อ หรือนายอมฤทธิ์ เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการปล้นเงินจากโบรกเกอร์ในครั้งนี้หรือไม่ แต่ชื่อของเสี่ยม้อถูกพาดพิงอยู่เหมือนกัน
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกาศหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พบว่าหลักทรัพย์ MORE มีการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ผิดปกติไปจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้แจ้งเตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขาย รวมถึงให้บริษัทสมาชิกเพิ่มมาตรการในการกำกับดูแลการซื้อขายในหลักทรัพย์ดังกล่าวแล้ว
ขอบคุณที่มาจาก : เล่นหุ้นไม่เป็น เราใจดีสอนฟรี , bangkokbiznews , mgronline
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ปัจจัยใดบ้างที่น่าจะมีผลสำคัญที่สุดต่อนักลงทุนในปี 2025? 1. ผลกระทบระดับโลกจากการปรับสมดุลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ 2. การเปลี่ยนแปลงจากเซมิคอนดักเตอร์ไปสู่ SaaS 3. การนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ใหม่
การสรุปพอร์ตในปีเก่าไม่เพียงแค่เป็นการทบทวนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมและวางแผนให้กับการลงทุนในปีใหม่ด้วย การตั้งเป้าหมายใหม่ การปรับกลยุทธ์ และการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม จะทำให้เรามีแนวทางที่มั่นคงและลดความเสี่ยงในการเทรดมากขึ้น ขอให้ทุกท่านพร้อมรับปีใหม่ด้วยความมั่นใจและกลยุทธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ!
ในปีนี้ อย่าลืมว่า การสร้างวินัยในการเทรด ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เสร็จได้ในวันเดียว มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน ความสำเร็จในการเทรดจะไม่เกิดขึ้นจากการกระทำที่หุนหันพลันแล่น แต่จะเกิดขึ้นจากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การพัฒนาตัวเอง และการทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ อย่าประมาทครับ! แม้ตลาดจะดูสงบ แต่ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ก็มีมาก หากเป็นไปได้ควรปิดพอร์ตพักไว้ก่อน แล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่หลังวันหยุดจะปลอดภัยที่สุด เทรดให้รอบคอบนะครับนักเทรดทุกท่าน!