简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคเช้า - 01 ธันวาคม 2565
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาทองคําปรับตัวลดลงทดสอบ ระดับต่ำสุดของวันบริเวณ 1,745.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด อาทิ ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP ประจำ ไตรมาส 3 โดยระบุว่า GDP ขยายตัวเกินคาดที่ 2.9% และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.3 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ 10.24 ล้านตำแหน่ง สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคําปรับตัวทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,745.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคําจะปรับตัวขึ้นแรง โดยปัจจัยพื้นฐานหลักที่หนุน ทองคํา คือ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะ “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ว่า เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สะท้อนจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 77% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 50 bps และนักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 25% ที่ เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bpsในการประชุมเดือนธ.ค. จนเป็นปัจจัยกดดันดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ร่วงลงจนส่งผลหนุนทองคําให้ทะยานขึ้นทดสอบ ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,769.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะทะยานขึ้นต่อในช่วงเช้าวันนี้ของตลาดเอเชีย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตาม การเปิดเผย Core PCE, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM
แม้ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นแรงขายค่อนข้างจำกัด แต่ระยะสั้นหากพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบ แนวต้านระดับ 1,786-1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าว (1,786 ระดับสูงสุดของเดือนพ.ย.)ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่ 1,759-1,744 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
คําแนะนำ เปิดสถานะซื้อ $1,759-1,744
จุดทำกําไร ขายเพื่อทำกําไร $1,786-1,802
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,744
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ปัจจัยใดบ้างที่น่าจะมีผลสำคัญที่สุดต่อนักลงทุนในปี 2025? 1. ผลกระทบระดับโลกจากการปรับสมดุลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ 2. การเปลี่ยนแปลงจากเซมิคอนดักเตอร์ไปสู่ SaaS 3. การนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ใหม่
การสรุปพอร์ตในปีเก่าไม่เพียงแค่เป็นการทบทวนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมและวางแผนให้กับการลงทุนในปีใหม่ด้วย การตั้งเป้าหมายใหม่ การปรับกลยุทธ์ และการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม จะทำให้เรามีแนวทางที่มั่นคงและลดความเสี่ยงในการเทรดมากขึ้น ขอให้ทุกท่านพร้อมรับปีใหม่ด้วยความมั่นใจและกลยุทธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ!
ในปีนี้ อย่าลืมว่า การสร้างวินัยในการเทรด ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เสร็จได้ในวันเดียว มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน ความสำเร็จในการเทรดจะไม่เกิดขึ้นจากการกระทำที่หุนหันพลันแล่น แต่จะเกิดขึ้นจากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การพัฒนาตัวเอง และการทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ อย่าประมาทครับ! แม้ตลาดจะดูสงบ แต่ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ก็มีมาก หากเป็นไปได้ควรปิดพอร์ตพักไว้ก่อน แล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่หลังวันหยุดจะปลอดภัยที่สุด เทรดให้รอบคอบนะครับนักเทรดทุกท่าน!
XM
OANDA
EC Markets
TMGM
Vantage
VT Markets
XM
OANDA
EC Markets
TMGM
Vantage
VT Markets
XM
OANDA
EC Markets
TMGM
Vantage
VT Markets
XM
OANDA
EC Markets
TMGM
Vantage
VT Markets