简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคเช้า - 07 ธันวาคม 2565
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําแกว่งตัวในกรอบ ขณะที่วานนี้ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ ระหว่างวันราคาทองคําดีดตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.515% จากแรงซื้อพันธบัตรระยะยาวในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นอกจากนี้ยัง เกิดแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยโดยตรง หลังจากผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐออกมาเตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย อาทิ นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของธนาคารเจพีมอร์ แกน เชส ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Squawk Box” ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ว่า วิกฤตเงินเฟ้ออาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า ส่วนนายไบรอัน มอยนิฮาน ซีอีโอของ แบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าวในการประชุมด้านการเงินซึ่งจัดขึ้นโดยโกลด์แมน แซคส์เมื่อวานนี้ว่า เขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงเล็กน้อยเป็นเวลานานถึง 3 ไตรมาสในปีหน้า ขณะที่นาย เดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกําลังชะลอตัวลง สถานการณ์ดังกล่าวหนุนราคาทองคําให้ดีดขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,780.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี กระแสเงินทุนไหลเข้าดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเช่นกัน ประกอบกับดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นั่นทำให้การปรับตัวขึ้นของทองคําถูกจํากัดอยู่ในกรอบและเกิดแรงขายสลับออกมาเป็นระยะ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +2.60 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามประสิทธิภาพการผลิตและประสิทธิภาพทุนแรงงานต่อหน่วยของสหรัฐ
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดวานนี้ แต่หากยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งยังคงต้องระมัดระวังแรงขาย เนื่องจากช่วงต้นสัปดาห์ราคามีการแกว่งตัวผันผวนและการเหวี่ยงตัวของราคาค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างจำกัดหลังจากราคาทิ้งตัวลงแรงอาจมีแรงขายเพิ่มขึ้น ประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,756-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,781-1,795
จุดทำกําไร ซื้อคืนเพื่อทำกําไร $1,756-1,747
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,795
ที่มา TH.Investing
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำราคาน้ำมันร่วง รัสเซีย-ยูเครนเจรจาสันติภาพ
รวมรีวิวโบรกเกอร์ประจำสัปดาห์
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ
บทความนี้สำรวจ 5 ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราระดับโลก ได้แก่: สหราชอาณาจักร (ลอนดอน) – ศูนย์กลางอันดับหนึ่งของโลก มีสภาพคล่องสูงสุดเพราะเชื่อมโยงตลาดเอเชียและอเมริกา สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) – ฐานหลักของดอลลาร์สหรัฐ และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ สิงคโปร์ – ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย และประตูสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก ฮ่องกง – เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนนอกประเทศจีน ญี่ปุ่น (โตเกียว) – ฐานหลักของเงินเยน และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น การเข้าใจโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของตลาดเหล่านี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ