简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคําวานนี้ปิดทะยาน หลังเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดทะยานขึ้น 29.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อ เทียบรายปี “ต่ํากว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี “ต่ํากว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1% ซึ่งตัวเลข ดังกล่าวสะท้อนการ “ชะลอตัวของเงินเฟ้อ” และบ่งชี้ว่าการดําเนินการของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อเริ่มเห็นผลแล้ว และนั่นจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอความแข็ง กร้าว (Less Aggressive) ในการคุมเข้มนโยบายการเงินปีหน้า เห็นได้จาก Fed funds futures ที่สะท้อนว่า อัตราดอกเบี้ยสูงสุด (terminal rate)ของเฟดจะแตะ 4.85% ในเดือนพ.ค.ปีหน้า ซึ่ง ลดลงจากระดับ 4.98-5.00% ในช่วงก่อนการเปิดเผยดัชนี CPI และการคาดการณ์นี้เอง กดดันดัชนีดอลลาร์ให้ร่วงลง 0.94% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงต่ํา กว่าระดับ 3.5% จนเป็นปัจจัยหนุนทองให้ทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. ที่ 1,824.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มขึ้น +2.32 ตัน สําหรับ วันนี้จับตาผลการประชุมเฟดในเวลาตี 2 ของคืนวันนี้ คาดเฟด “ขึ้น” ดอกเบี้ย 50 bps และแนะนํารอดูมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐผ่านรายงาน Economic Projections ซึ่งเป็นการคาดการณ์ GDP, อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ รวมไปถึงติดตามความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต ผ่านรายงาน Dot Plot ซึ่งจะเป็นคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของ เจ้าหน้าที่เฟด และติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดในเวลา ตี 2 ครึ่งว่าจะส่งสัญญาณในเชิง Hawkish มากกว่า หรือ น้อยกว่าคาด
หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ระดับสูงสุดของวานนี้) ซึ่งเป็นกรอบด้านบนของทิศทาง Sideway UP ส่งผลให้อาจมีแรงขายท าก าไรระยะสั้นสลับ ออกมา สำหรับวันนี้ประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,797-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนว รับแนวรับสำคัญหรือ กรอบด้านล่างจะอยู่ในโซน 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,824
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,783-1,765
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,824
ที่มา : TH.investing
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ปัจจัยใดบ้างที่น่าจะมีผลสำคัญที่สุดต่อนักลงทุนในปี 2025? 1. ผลกระทบระดับโลกจากการปรับสมดุลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ 2. การเปลี่ยนแปลงจากเซมิคอนดักเตอร์ไปสู่ SaaS 3. การนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ใหม่
การสรุปพอร์ตในปีเก่าไม่เพียงแค่เป็นการทบทวนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมและวางแผนให้กับการลงทุนในปีใหม่ด้วย การตั้งเป้าหมายใหม่ การปรับกลยุทธ์ และการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม จะทำให้เรามีแนวทางที่มั่นคงและลดความเสี่ยงในการเทรดมากขึ้น ขอให้ทุกท่านพร้อมรับปีใหม่ด้วยความมั่นใจและกลยุทธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ!
ในปีนี้ อย่าลืมว่า การสร้างวินัยในการเทรด ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เสร็จได้ในวันเดียว มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน ความสำเร็จในการเทรดจะไม่เกิดขึ้นจากการกระทำที่หุนหันพลันแล่น แต่จะเกิดขึ้นจากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การพัฒนาตัวเอง และการทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ อย่าประมาทครับ! แม้ตลาดจะดูสงบ แต่ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ก็มีมาก หากเป็นไปได้ควรปิดพอร์ตพักไว้ก่อน แล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่หลังวันหยุดจะปลอดภัยที่สุด เทรดให้รอบคอบนะครับนักเทรดทุกท่าน!