简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:Siamblockchain - จากการตรวจสอบตัวแปรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตพบว่า ลอ
Siamblockchain - จากการตรวจสอบตัวแปรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตพบว่า ลอนดอนเป็นเมืองที่มีความพร้อมมากที่สุดหรับการทำธุรกิจหรือเปิดบริษัทสตาร์ทอัพคริปโต นอกจากจากกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคริปโตแล้ว การยอมรับ Cryptocurrency ในวงกว้างก็จำเป็นที่ต้องมีโครงสร้างและปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงและสัมผัสกับคริปโตได้ เมื่อพิจารณาตัวแปรทั้ง 8 เกี่ยวกับกฏหมายด้านภาษี ตู้ ATM งานและกิจกรรมที่เกี่ยวกับคริปโตพบว่าลอนดอนเป็นเมืองที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ที่เหมาะกับการที่จะมาเปิดบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโต นายกรัฐมนตรี Rishi Sunak ของสหราชอาณาจักรต้องการที่จะให้อุตสาหรกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินของประเทศอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก และจากงานวิจัยของ Recap พบว่าเมืองลอนดอนเป็นเหมือนที่มีความพร่อมสำหรับการทำธุรกิจคริปโตมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ จากข้อมูลพบว่าเมืองชั้นนำของโลกอย่าง ดูไบและนิวยอร์กก็ติดอันดับ 1 ใน 3 ของการจัดอันดับ อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงซึ่งก่อนหน้านี้ได้อันดับ 1 ในการเป็นเมืองที่มีความพร้อมมากที่สุดก็ได้ร่วงตกลงไปอยู่ในอันดับที่ 7 ในงานวิจัย ภาพข้างบนเป็นภาพที่แสดงเมือง 50 อันดับแรกที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อมอำนวยต่อการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ปัจจัยสำคัญที่นำมาพิจารณาในงานวิจัย ได้แก่ จำนวนตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับคริปโต, จำนวนอีเว้นท์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต, บริษัทคริปโต และจำนวนตู้ ATM คริปโต และนอกจากนี้ยังพิจารณาถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคริปโตอีก เช่น คุณภาพชีวิต การใช้งานด้านการวิจัยและการพัฒนาต่าง ๆ ในประเทศ และอัตราภาษีกำไรจากการขายหุ้น ลอนดอนกลายเป็นเมืองที่มีเป็นศูนย์กลางของคนที่ทำงานด้านคริปโต ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกว่าประชาชนทั่วไปกำลังสนใจในคริปโตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมืองอื่น
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ