简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:BeInCrypto - สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคาร Silvergate (SI) ล้มลงพร้อมส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตเคอเรนซี่และ ธ
BeInCrypto - สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคาร Silvergate (SI) ล้มลงพร้อมส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตเคอเรนซี่และ ธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ขนาดใหญ่ที่ทำให้หุ้นธนาคารสหรัฐทั้งตลาดร่วงลงอย่างรุนแรง
ทั้ง 2 ธนาคารนี้ อยู่ภายใต้สถาบันเดียวกัน ในขณะที่ Silvergate มีความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ดิจิตอลสูง ส่วน Silicon Valley Bank เป็นธนาคารลักษณะดั้งเดิม ที่มีความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ดิจิตอลต่ำกว่า
ความคล้ายคลึงกันระหว่างการล่มสลายของธนาคาร 2 แห่งนี้ คือ การถูก “Bank run” ทั้งสองแห่งได้รับผลกระทบจากการถอนเงินอย่างรุนแรง ทำให้ผู้บริหารต้องชำระบัญชีหลักทรัพย์ที่ถือไว้เป็นทุนสำรอง
การเทขายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เหล่านั้นบีบให้ธนาคารต้องตัดหนี้สูญจำนวนมาก เนื่องจากมูลค่าของพอร์ตการลงทุนที่สูญเสียมูลค่าเพราะอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา เมื่ออัตราเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นอย่างมากพร้อมกับการปรับขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ ราคาพันธบัตรจะลดลง (discount) เป็นกลไกโดยปกติ
จุดเริ่มต้นของวิกฤต ธนาคาร Silvergate ล้ม
ภาพรวมการยื่นเอกสารงบการเงินกับหน่วยงานกำกับดูแลของธนาคารแสดงให้เห็นว่าไตรมาสที่ 4 นั้นเลวร้ายมาก เนื่องจากลูกค้าสถาบัน crypto แห่กันถอนเงินฝากหลังจากการล่มสลายของการแลกเปลี่ยน FTX ของ Sam Bankman-Fried
ณ สิ้นเดือนกันยายน ธนาคารมีเงินฝาก 13.3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีสินทรัพย์เป็นเงินสดประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ และหลักทรัพย์เพื่อการลงทุน 11.4 พันล้านดอลลาร์
3 เดือนต่อมา เงินฝากลดลงเหลือประมาณ 6.3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ธนาคารต้องระดมเงินสดมากขึ้นโดยต้องขายหลักทรัพย์ของตนเอง ลงเหลือประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2022
ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้น การเทขายหลักทรัพย์ โดยเฉพาะตราสารหนี้และพันธบัตรระยะยาว ทำให้ธนาคารต้องขาดทุนเป็นอย่างมาก เพราะสินทรัพย์เหล่านี้ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ราคาจะลดลง
จุดจบที่ยังไม่จบ
แม้ว่าจะมีการเทขายสินทรัพย์เพื่อโปะหนี้เมื่อช่วงต้นปีแล้ว แต่ในวันที่ 1 มีนาคม ทางสถาบันออกมาเปิดเผยว่า งบการเงินของธนาคารอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ปลอดภัยตามกฎหมายธนาคาร ทำให้สถานการณ์และความกังวลเริ่มรุนแรงขึ้นไปอีก
การประกาศนี้ทำให้หุ้นของบริษัทร่วงลงอย่างมาก จวบจนวันที่ 8 มีนาคม ธนาคารเผยว่า พวกเขา “ต้องขายสินทรัพย์ทั้งหมด” เพื่อใช้หนี้ ซึ่งหนี้เหล่านั้นรวมถึง “เงินฝาก” ของลูกค้าด้วยเช่นกัน
ผลกระทบส่งผลต่อเนื่องถึง Silicon Valley Bank ด้วยเช่นกันที่ต้องเผชิญกับหนี้เสียและวิกฤตความเชื่อมั่น ล่าสุดจึงล้มลงไปเช่นกันและนับว่าเป็นวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ Subprime ปี 2008 ปัญหานี้ทำให้เงินฝากมากมายต้องตกอยู่ในความเสี่ยงด้าน Bankrun ซึ่งผลกระทบแบบโดมิโน่อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า อย่างไรก็ดี SVB ล่าสุดคาดว่าจะถูก Takeover โดย FDIC สถาบันภายใต้ธนาคารกลางสหรัฐแล้ว
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก BeInCrypto
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
GO MARKETS
FxPro
EC Markets
STARTRADER
XM
FBS
GO MARKETS
FxPro
EC Markets
STARTRADER
XM
FBS
GO MARKETS
FxPro
EC Markets
STARTRADER
XM
FBS
GO MARKETS
FxPro
EC Markets
STARTRADER
XM
FBS