简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 25-26 กรกฎาคม มีมติเป็นเอกฉันท์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 25-26 กรกฎาคม มีมติเป็นเอกฉันท์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และนับเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 11 ในการประชุมนโยบาย 12 ครั้งหลังสุด นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมแล้ว 5.25%
แถลงการณ์ของ Fed ระบุว่า แม้การชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและนักธุรกิจชาวอเมริกัน แต่ระดับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุดยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% อีกทั้ง Fed ยังคงให้น้ำหนักความสำคัญอย่างมากต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมากกว่า ดังนั้นจึงตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งก่อน
ก่อนหน้านี้ บรรดานักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ และจะยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตนั้น เฟดจะตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง รวมทั้งพิจารณาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเวลานั้น โดยเฟดจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น
พาวเวลล์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ โดยเขากล่าวว่า เราจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อเราเห็นว่าสถานการณ์เอื้ออำนวยให้เราดำเนินการเช่นนั้น แต่คาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้
และเฟดจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะเห็นเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือ Soft Landing ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อชะลอตัวลง, อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจไม่อยู่ในภาวะถดถอย
ทั้งนี้ จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Consumption Expenditures Price Index : PCE) เดือนมิ.ย.ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed นิยมนำมาใช้อ้างอิงปรับเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนพฤษภาคมจากปีก่อนหน้า แต่ลดลงจาก 4.3% ของเดือนเมษายน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานลดลงเหลือ 4.6% จาก 4.7%
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนวิเคราะห์ว่า ในส่วนของ “ทองคำ” แม้ว่า สถิติในอดีตจะชี้ว่า ราคาทองคำ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หากเฟดจบรอบการขึ้นดอกเบี้ย แต่เรามองว่า ยังคงต้องระมัดระวังว่า บรรดาธนาคารกลางอื่นๆ จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกหรือไม่ และบรรยากาศในตลาดการเงินจะเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงต่อ (Risk-On) อีกนานเพียงใด เนื่องจากภาพดังกล่าวจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อได้ยาก ทำให้เราคงมองเป้าราคาทองคำแถว 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรรอจังหวะราคาทองคำย่อตัวลงในการทยอยเข้าซื้อ เพื่อ hedge ความเสี่ยงการลงทุน
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
7 เช็กลิสต์สังเกตโบรกเกอร์ Forex หลอกลวง
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 17-18 ธ.ค. ซึ่งระบุว่า บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและผลกระทบที่อาจเกิดจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
บทวิเคราะห์ทองคำ
รีวิวโบรกเกอร์ easyMarkets
FXTM
ATFX
Neex
Vantage
HFM
Pepperstone
FXTM
ATFX
Neex
Vantage
HFM
Pepperstone
FXTM
ATFX
Neex
Vantage
HFM
Pepperstone
FXTM
ATFX
Neex
Vantage
HFM
Pepperstone