简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้
วันพุธที่ 11 ต.ค. 2023
•19.30 น. :ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ เดือนต่อเดือน (PPI m/m)
ตัวเลขครั้งก่อน 0.7% ตัวเลขคาดการณ์ 0.3%
วันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 2023
•01.00 น. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC Meeting Minutes)
•19.30 น. : ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนต่อเดือน (CPI m/m)
ตัวเลขครั้งก่อน 0.6% ตัวเลขคาดการณ์ 0.3%
•19.30 น. : ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ปีต่อปี (CPI y/y)
ตัวเลขครั้งก่อน 3.7% ตัวเลขคาดการณ์ 3.6%
•19.30 น. : จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐฯ (Unemployment Claims)
ตัวเลขครั้งก่อน 207K ตัวเลขคาดการณ์ 216K
วันศุกร์ที่ 13 ต.ค 2023
• 21.00 น. : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกนสหรัฐฯ (Prelim UoM Consumer Sentiment)
ตัวเลขครั้งก่อน 0.2% ตัวเลขคาดการณ์ 0.2%
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์เริ่มย่อตัวลงบ้าง หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาผสมผสาน
ควรรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ และควรเตรียมรับมือความผันผวนในตลาดการเงิน จากภาวะสงคราม ระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ที่อาจขยายวงกว้างเป็นความขัดแย้งในตะวันออกกลางได้
ทั้งนี้ สถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ได้หนุนให้เช้านี้ ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแรง ขณะเดียวกัน ราคาทองคำก็ปรับตัวขึ้นต่อ
1. ฝั่งสหรัฐฯ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ล่าสุด หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้า รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ถือว่า ออกมาผสมผสาน โดยยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้นดีกว่าคาดไปมาก ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้าง ยังคงชะลอลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยของเฟดมากนัก โดยผู้เล่นในตลาดยังคงมองว่า เฟดมีโอกาสราว 43% ที่จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม ก่อนที่จะทยอยลดดอกเบี้ยลงราว -75bps ในปีหน้า
ทำให้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจเพิ่มขึ้นราว +0.3%m/m หรือ +3.6%y/y หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงาน รวมถึงการพลิกกลับมาเพิ่มขึ้นของราคารถยนต์มือหนึ่งและมือสอง ซึ่งก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI เพิ่มขึ้น +0.3%m/m หรือ +4.1%y/y
ทั้งนี้ แม้ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะชะลอลงต่อเนื่อง ทว่า เฟด อาจยังมีความกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อได้ ซึ่งอาจทำให้ บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอาจเดินหน้าส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อ
ไม่ว่าจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หรือ คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานขึ้น ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และ รายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes)
และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดการเงินผันผวนในระยะสั้นได้ โดยหากสงครามขยายวงกว้างมากขึ้น ก็อาจทำให้ตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ได้ในระยะสั้น
ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) อาทิ เงินดอลลาร์ เงินเยนญี่ปุ่น และทองคำ ส่วนราคาน้ำมันดิบก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ ท่ามกลางความกังวลว่าสถานการณ์สงครามอาจส่งผลกระทบต่อโฟลว์น้ำมันจากตะวันออกกลาง ทั้งในแง่การผลิตและการส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคดังกล่าว
2. ฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา รายงานการประชุม ECB ล่าสุด เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของทาง ECB หลังล่าสุด รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนยังคงสะท้อนภาพการชะลอตัวลงต่อเนื่องของเศรษฐกิจ ทำให้ผู้เล่นในตลาด (รวมถึงเรา) มองว่า ECB อาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว
3. ฝั่งเอเชีย ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาทิ ยอดการส่งออกและนำเข้า (Exports & Imports) ในเดือนกันยายน และอัตราเงินเฟ้อ CPI โดยนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า แม้ว่ายอดการส่งออกของจีนอาจยังคงหดตัวราว -7%y/y แต่ก็เป็นการหดตัวในอัตราที่ชะลอลงต่อเนื่อง จาก -8.8%y/y ในเดือนก่อน
ทั้งนี้ ยอดการนำเข้าที่อาจลดลง -6%y/y ดีขึ้น จากที่ดิ่งลงกว่า -7.3%y/y ก็อาจสะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นและส่วนหนึ่งก็อาจมาจากผลของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะพลังงานที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งภาพการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศก็อาจสอดคล้องกับ การทยอยปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ CPI สู่ระดับ +0.2%y/y ทั้งนี้ แม้ว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ทว่าทางการจีนอาจจำเป็นต้องออกมาตรการช่วยเหลือเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อประคองโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กว่าจะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เรื่องราวของ Vitalik Buterin เป็นมาอย่างไร?
การเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จสามารถเปรียบเทียบกับการเดินเรือข้ามมหาสมุทรที่ต้องใช้การวางแผนและความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ซึ่งใน 5 วิธีที่กล่าวถึงนี้ ไม่มีขั้นตอนใดที่สามารถขาดไปได้: 1. Plan (การวางแผน) = จุดหมายปลายทาง 2. Strategy (กลยุทธ์) = แผนที่เส้นทางเพื่อที่จะไปยังจุดหมายปลายทาง 3. Risk Management (การจัดการความเสี่ยง) = ขับเรืออย่างระวังเพื่อที่จะไม่ให้ไปชนภูเขาน้ำแข็ง 4. Lookout for News (ติดตามข่าวสาร) = มีไหวพริบที่ดี สังเกตุถึงความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น 5. Play Your Own Game (เล่นเกมส์ชีวิตของตัวเองโดยไม่ไปแข่งกับผู้อื่น) = มุ่งไปหาเป้าหมายที่เราตั้งไว้
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสเมื่อวานนี้ว่า
กฎสำคัญของการเทรดแบบ Scalping 1.ใช้กลยุทธ์ Scalping ที่มีคุณภาพ 2.หาจุดคุ้มทุน (Break-even stops) 3.อย่าคิดว่าการเทรดบ่อย ๆ จะทำให้ได้เงินเยอะ 4.ติดตามกลยุทธ์การเทรด 5.ปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์การเทรดที่วางไว้ 6.เทรดด้วยอัตราการชนะที่มากกว่า 7.ใช้กรอบเวลาที่เหมาะสม 8.เริ่มต้นเล็ก ๆ ก่อน 9.เชี่ยวชาญในโครงสร้างตลาด 10.ฝึกฝนการเทรดทุกวัน