简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วิธีเลือกกลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่
วันนี้แอดเหยี่ยวนำบทความดีๆจาก เพจ Forex วิทยา มาแชร์ให้เทรดเดอร์มือใหม่ได้อ่านกัน โดยรายละเอียดมีอยู่ว่า การเลือกกลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่เป็นสิ่งที่นักเทรดมือใหม่ทุกคนต้องเผชิญ กลยุทธ์เทรดมีมากมายนับร้อย ไม่ว่าจะเป็นการเดย์เทรด การเทรดข่าว สกัลปิ้ง การเทรดสวนเทรนด์ และอีกมากมาย แต่ละวิธีต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นการเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายและใช้เวลานาน วันนี้เราจะมาดูเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญที่นักเทรดต้องพิจารณาเมื่อต้องวางแผนกลยุทธ์การเทรด
กลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดคืออะไร? ในแนวทางการเทรด ไม่มีกลยุทธ์ไหนที่เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุด บางวิธีมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีอื่น บางวิธีเข้าใจง่ายกว่า แต่ไม่มีวิธีที่เหมาะกับทุกคน และไม่มีวิธีที่ใช้ได้กับทุกคน ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่มีทางลัดสำหรับกลยุทธ์เทรด กลยุทธ์เทรดเดียวที่สมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องลองใช้กลยุทธ์ต่างๆ และสร้างแนวทางส่วนตัวที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของตนเอง
ข้อผิดพลาดทั่วไปของนักเทรดมือใหม่คือการเลือกกลยุทธ์เทรดแบบไม่ได้ตั้งใจ หลังจากลองครั้งสองครั้งแล้วผิดหวังก็จะหันไปลองกลยุทธ์อื่น ส่วนสำคัญของการพัฒนากลยุทธ์คือการวิเคราะห์ความชอบส่วนตัว และสร้างกลยุทธ์ขึ้นจากสิ่งเหล่านี้
แล้วจะเลือกกลยุทธ์เทรดอย่างไร? ต้องพิจารณาปัจจัยใดบ้าง?
กลยุทธ์ที่ดีต้องมี 4 องค์ประกอบหลัก
1. ตราสารการเทรด : ก่อนที่จะเลือกกลยุทธ์ คุณต้องตัดสินใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่จะเทรด ยกตัวอย่างเช่น การเทรดไบนารีออปชันต้องใช้แนวทางที่รวดเร็วอย่างการวิเคราะห์ทางเทคนิคและไม่มีการวิเคราะห์พื้นฐาน ส่วนการเทรดหุ้นต้องศึกษาปัจจัยพื้นฐานก่อนที่จะเข้าเทรด และเรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทที่กำลังลงทุน นักเทรดฟอเร็กซ์จะต้องเรียนรู้แนวคิดพื้นฐานทั้งหมด รวมถึงสกุลเงินฐานและสกุลเงินอ้างอิง คู่สกุลเงินหลักและสกุลเงินแปลกใหม่ เป็นต้น
2. กรอบเวลา : เมื่อต้องเลือกกลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ ระยะเวลาของการเทรดเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา บางวิธีใช้งานได้ดีที่สุดในการเทรดระยะสั้น (ตั้งแต่หลายนาทีถึงหลายชั่วโมง)
3. ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Tolerance) : ส่วนใหญ่แล้วกลยุทธ์เทรดของคุณจะขึ้นอยู่กับระดับการยอมรับความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงขนาดเงินทุน สถานะทางการเงิน เลเวอเรจที่ใช้ และพร้อมเทรดบ่อยแค่ไหน นักเทรดที่เงินทุนเยอะมักจะมีจำนวนเงินลงทุนที่สูงกว่าและระยะเวลาการเทรดยาวนานกว่า ส่วนนักเทรดที่มีเงินทุนน้อยกว่าชอบสะสมผลตอบแทนจากการเทรดระยะสั้นหลายๆ ครั้งด้วยเงินลงทุนที่น้อยกว่า
4. ประสบการณ์ : การเลือกกลยุทธ์ที่ซับซ้อนซึ่งมีส่วนประกอบมากมายอาจเป็นแนวทางที่ดีสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ แต่อาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากสำหรับผู้เริ่มต้น การเลือกกลยุทธ์ต้องพิจารณาระดับประสบการณ์และความรู้ของคุณ หากกลยุทธ์เข้าใจยากเกินไป หรือใช้เวลาทำความเข้าใจมากเกินไป กลยุทธ์นั้นอาจไม่เหมาะกับคุณ คุณต้องฝึกฝนแนวทางพื้นฐานก่อนจะลองใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น
คุณสามารถสร้างแนวทางการเทรดของตนเองได้ แทนที่จะสงสัยว่า “กลยุทธ์การเทรดที่ใช้ได้ผลที่สุดคืออะไร” ซึ่งเรื่องนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนและอดทน แต่ถือว่าคุ้มค่าแน่นอน อย่าลืมเรื่องสำคัญที่ว่าไม่มีกลยุทธ์ไหนที่ใช้งานได้ผลเสมอไป การเทรดมีโอกาสขาดทุนได้เสมอ ดังนั้นอย่าเพิ่งปฏิเสธกลยุทธ์ทันที หากกลยุทธ์นั้นไม่ได้ให้ผลลัพธ์ตามที่คุณคาดหวังไว้ แต่ควรติดตามกลยุทธ์ต่างๆ ที่กำลังทดลองใช้และจดบันทึกว่ากลยุทธ์ใช้งานได้ดีหรือล้มเหลว ซึ่งสามารถทำได้โดยจดบันทึกการเทรดเป็นประจำ หลังจากนั้นไม่นาน คุณจะสามารถทิ้งกลยุทธ์ที่ไม่ได้ผลเพื่อรวมกลยุทธ์ที่ให้ผลลัพธ์ดีและเข้ากับแผนการเทรดของคุณ
ควรลงทุนเทรดเท่าไร ? : ขนาดสถานะจะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เงินทุนเริ่มต้น และเป้าหมายโดยรวม กฎทั่วไปที่นักลงทุนบางส่วนใช้คือจำกัดความเสี่ยงไว้ที่ 1-2% ของเงินลงทุนเริ่มต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ Forex วิทยา
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กฎของ 72 เป็นสูตรที่เรียบง่าย แต่มีประโยชน์มากสำหรับนักลงทุนที่อยากรู้ว่าเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็น สองเท่า ภายในเวลากี่ปี ด้วยอัตราผลตอบแทนรายปีที่กำหนด หรือหากนักเทรดรู้ระยะเวลาที่เงินจะเพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว กฎนี้ยังช่วยคำนวณอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่คุณต้องการได้ด้วย
พีระมิดการลงทุนไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังสร้างสมดุลให้พอร์ตการลงทุนได้อย่างยั่งยืน หัวใจสำคัญคือการวางแผนและจัดการพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมาย พร้อมทั้งศึกษาและเข้าใจสินทรัพย์แต่ละประเภทอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์ทองคำ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
Octa
IQ Option
VT Markets
XM
HFM
Tickmill
Octa
IQ Option
VT Markets
XM
HFM
Tickmill
Octa
IQ Option
VT Markets
XM
HFM
Tickmill
Octa
IQ Option
VT Markets
XM
HFM
Tickmill