简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เลเวอเรจ (Leverage) ในตลาด Forex คืออะไร? ความเสี่ยงของเลเวอเรจใน Forex
เลเวอเรจ เป็นอีกหนึ่งคำที่ใช้บ่อยมากในการเทรด Forex วันนี้แอดเหยี่ยว จะขอแนะนำคำนี้ให้นักเทรดเข้าใจให้มากขึ้นกันนะครับ
เลเวอเรจ (Leverage) ในตลาด Forex คืออะไร?
คือ การที่นักเทรดยืมเงินจากโบรกเกอร์ เพื่อให้นักเทรดได้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในตอนที่ซื้อขาย Forex เพราะตลาด Forex มีขนาดใหญ่มาก ล็อตขนาดใหญ่มหาศาล นักเทรดจะสามารถซื้อขายล็อตที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และเปิดตำแหน่งได้มากขึ้นโดยไม่ต้องลงเงินทุนทั้งหมด
ตัวอย่างการใช้เลเวอเรจ
นักเทรดมีทุนจำนวน 1,000 ดอลลาร์ และเลือกใช้เลเวอเรจที่ 1:100 ในการเทรด Forex หมายความว่านักเทรดสามารถควบคุมตำแหน่งที่มีมูลค่ามากถึง 100,000 ดอลลาร์ด้วยทุนจริงเพียง 1,000 ดอลลาร์ครับ
ความเสี่ยงของเลเวอเรจใน Forex
การใช้เลเวอเรจต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากยิ่งเลเวอเรจ เพิ่มความผันผวนให้กับพอร์ตโฟลิโอของนักเทรด หรือนักเทรดสามารถทำเงินได้มากขึ้น นักเทรดก็จะสูญเสียเงินได้มากขึ้น การเข้าใจอย่างถ่องแท้ เกี่ยวกับวิธีการทำงานของเลเวอเรจ และการบริหารความเสี่ยง จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักเทรด
1.การขาดทุนอย่างรวดเร็ว
เลเวอเรจเพิ่มปริมาณของตำแหน่งที่ควบคุม การเคลื่อนไหวของตลาดที่ตรงกันข้ามกับทิศทาง ที่นักเทรดคาดการณ์จะทำให้นำไปสู่การขาดทุนที่สูงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเกินกว่าทุนเริ่มต้นที่ลงทุนไป
2.การเรียกเพิ่มทุน (Margin Call)
หากมูลค่าของตำแหน่งที่เปิดด้วยเลเวอเรจลดลงจนถึงระดับหนึ่ง นักเทรดอาจต้องเผชิญกับการเรียกเพิ่มทุน ซึ่งเป็นการแจ้งให้นักเทรดเพิ่มเงินหลักประกันเพื่อรักษาระดับของตำแหน่งที่เปิดอยู่ หากไม่สามารถเพิ่มทุนได้ ตำแหน่งอาจถูกปิดโดยอัตโนมัติ
3.ความผันผวนของตลาด
ตลาด Forex มีความผันผวนสูง การเคลื่อนไหวของราคาอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่คาดคิด ทำให้เลเวอเรจเพิ่มความเสี่ยงให้กับนักเทรดได้
ดังนั้นเลือกใช้เลเวอเรจ ที่เหมาะสมกับนักเทรดจึงมีความจำเป็น เพราะการพลาดเพียงแค่ครั้งเดียวก็อาจมีโอกาสล้างพอร์ตได้ และหากเลือกเลเวอเรจ ที่เหมาะสมก็จะทำให้มีโอกาสในการทำกำไรโดยใช้เงินลงทุนน้อยลง
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้สำรวจ 5 ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราระดับโลก ได้แก่: สหราชอาณาจักร (ลอนดอน) – ศูนย์กลางอันดับหนึ่งของโลก มีสภาพคล่องสูงสุดเพราะเชื่อมโยงตลาดเอเชียและอเมริกา สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) – ฐานหลักของดอลลาร์สหรัฐ และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ สิงคโปร์ – ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย และประตูสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก ฮ่องกง – เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนนอกประเทศจีน ญี่ปุ่น (โตเกียว) – ฐานหลักของเงินเยน และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น การเข้าใจโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของตลาดเหล่านี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมสรรพากรสหรัฐฯ เลิกจ้างพนักงานราว 6,000 ตำแหน่งตามนโยบายทรัมป์
บทวิเคราะห์ทองคำ
กำไรจากการขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณไม่ต้องเสียภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) อย่างไรก็ตาม การออมทองไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ยกเว้นค่ากำเหน็จทองรูปพรรณที่มีใบกำกับภาษี e-Tax Invoice บทความยังเปรียบเทียบภาระภาษีจากการลงทุนประเภทอื่น เช่น หุ้น พันธบัตร และคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อช่วยให้นักลงทุนวางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ การออมทองเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง แม้ราคาจะผันผวนตามเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงควรพิจารณาข้อมูลและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ
EC Markets
FxPro
FXCM
FBS
HFM
OANDA
EC Markets
FxPro
FXCM
FBS
HFM
OANDA
EC Markets
FxPro
FXCM
FBS
HFM
OANDA
EC Markets
FxPro
FXCM
FBS
HFM
OANDA