简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ทฤษฎีใหม่ที่ชื่อว่า Elliott Wave หรือ คลื่นของ Elliott เป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคของรูปแบบราคาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นและจิตวิทยาของนักลงทุน
วันนี้แอดเหยี่ยวจะมาชวนเหล่านักเทรดรู้จักกับทฤษฎีใหม่ที่ชื่อว่า Elliott Wave หรือ คลื่นของ Elliott แล้วมันนำมาใช้กับ Forex อย่างไรเดี๋ยวมาดูกัน แต่บอกก่อนเลยว่าคลื่นในที่นี้ไม่ใช่คลื่นที่ทะเลแน่นอน แต่เป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคของรูปแบบราคาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นและจิตวิทยาของนักลงทุน มีหลักการทำงานอย่างไร ตามแอดเหยี่ยวมาเลย
ทฤษฎี Elliott Wave มาจากไหน?
แนวคิด “Elliott Wave” อ่านว่า เอลเลียตเวฟ ถูกคิดค้นขึ้นโดย Ralph Nelson Elliott นักบัญชีชาวอเมริกัน ในช่วงทศวรรษที่ 1930 แนวคิดนี้เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นในช่วง 75 ปีที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด เอลเลียตพบว่าตลาดหุ้นที่ดูเหมือนจะมีพฤติกรรมวุ่นวายแท้จริงแล้วมีรูปแบบที่ชัดเจน เขาศึกษาตลาดหุ้นอเมริกาจนเห็นวงจรตลาดและพัฒนาเป็นหลักการกราฟที่มีลักษณะเป็นลูกคลื่น (ขึ้น ลง ขึ้น ลง) การเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนพฤติกรรมของนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ในตลาด ซึ่งเกิดพฤติกรรมซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง จนสามารถแสดงออกมาในรูปแบบของกราฟราคาที่นำมาคำนวณเป็นสูตร Elliott Wave ได้
เมื่อเขาอายุได้ 66 ปี เอลเลียตรวบรวมหลักฐานและความมั่นใจเพียงพอที่จะแบ่งปันการค้นพบของเขากับโลก เขาตีพิมพ์ทฤษฎีในหนังสือชื่อ The Wave Principle เป้าหมายของ Elliott Wave คือการวิเคราะห์ลักษณะราคาบนกรอบเวลาต่าง ๆ และคาดการณ์อนาคต ทฤษฎีนี้ถูกนำมาใช้แพร่หลายในตลาดคริปโตและตลาดอื่น ๆ ด้วย
Elliott Wave ทำงานอย่างไร?
การทำงานของ Elliott Wave มักแสดงในรูปแบบที่คงที่เสมอ ราคาจะเคลื่อนไหวด้วยแรงจูงใจและจะมีการปรับตัวแก้ไขการเคลื่อนไหวนั้น รูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ นี้เรียกว่าคลื่น ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
1.Impulse Wave
(คลื่นส่งลง) เป็นคลื่นที่เคลื่อนไหวไปตามทิศทางเทรนแนวโน้มหลัก การปรับขึ้นลงของราคาจำนวน 5 ครั้ง
2.Correction Wave
(พักตัว) เป็นคลื่นสวนแนวโน้มที่เคลื่อนไหวสวนทางกับเทรนแนวโน้มหลัก จะมีการปรับขึ้นลงของราคาจำนวน 3 ครั้ง
ขอบคุณรูปจาก Mitrade
ทั้งคลื่นที่วิ่งในทิศทางหลัก (Motive Wave) และคลื่นพักตัวสามารถเห็นได้ในรูปแบบข้างต้น สิ่งสำคัญคือความยาวคลื่นและสัดส่วน คลื่น2 มักยาว60% ของคลื่นแรกคลื่น3 มักใหญ่กว่าคลื่น1 และคลื่น4 ที่ติดกันมักยาว30% หรือ40% ของคลื่น3 โดยใช้กฎเดียวกันสำหรับแนวโน้มขาลง
ขอบคุณรูปจาก Mitrade
ขอบคุณรูปจาก Mitrade
การใช้ Elliott Wave กับ Forex
ทฤษฎีนี้ใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาวของคู่สกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์ โดยประกอบด้วยรูปแบบคลื่นที่เกิดซ้ำซึ่งช่วยในการระบุระดับราคาที่รุนแรง คลื่นในทฤษฎี Elliott Wave แทนระดับราคาของคู่สกุลเงิน รูปแบบ Elliott Wave ประกอบด้วยคลื่น 5 คลื่นที่เคลื่อนไปตามแนวโน้มตลาด และคลื่น 3 คลื่นที่สวนทางกับแนวโน้ม เพื่อส่งสัญญาณระดับราคาตามทฤษฎี
จากภาพแสดงการใช้ Elliott Wave ในการเทรด Forex จะเห็นได้ว่า A-B-C เป็นช่วงขาลงของ Elliott Wave หรือที่เรียกว่า Correction Wave (พักตัว) โดย A คือการลง, B คือการเด้งขึ้นเพราะมีคนคิดว่าราคาจะไม่ลงต่อ, และ C คือลงยาว เมื่อหุ้นอยู่ในช่วงขาลง A-B-C นักลงทุนควรพิจารณาขายทิ้ง โดยคุณอาจเลือกขายที่จุดสูงสุดของ B และเมื่อถึงช่วง C ซึ่งเป็นช่วงขาลง ควรเปลี่ยนไปลงทุนในตัวอื่นเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า
หากคุณต้องการทดสอบว่า Elliott Wave เป็นกลยุทธ์ที่ดีหรือไม่ คุณสามารถลงทะเบียนบัญชีและใช้เงินเสมือนจริงในการซื้อขาย วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณทดสอบกลยุทธ์ Elliott Wave แต่ยังช่วยเพิ่มพูนความรู้ในการเทรดของคุณได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Mitrade
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้สำรวจ 5 ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราระดับโลก ได้แก่: สหราชอาณาจักร (ลอนดอน) – ศูนย์กลางอันดับหนึ่งของโลก มีสภาพคล่องสูงสุดเพราะเชื่อมโยงตลาดเอเชียและอเมริกา สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) – ฐานหลักของดอลลาร์สหรัฐ และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ สิงคโปร์ – ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย และประตูสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก ฮ่องกง – เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนนอกประเทศจีน ญี่ปุ่น (โตเกียว) – ฐานหลักของเงินเยน และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น การเข้าใจโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของตลาดเหล่านี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมสรรพากรสหรัฐฯ เลิกจ้างพนักงานราว 6,000 ตำแหน่งตามนโยบายทรัมป์
บทวิเคราะห์ทองคำ
กำไรจากการขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณไม่ต้องเสียภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) อย่างไรก็ตาม การออมทองไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ยกเว้นค่ากำเหน็จทองรูปพรรณที่มีใบกำกับภาษี e-Tax Invoice บทความยังเปรียบเทียบภาระภาษีจากการลงทุนประเภทอื่น เช่น หุ้น พันธบัตร และคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อช่วยให้นักลงทุนวางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ การออมทองเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง แม้ราคาจะผันผวนตามเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงควรพิจารณาข้อมูลและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ