简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่ง กล่าวเมื่อวันอังคาร (10 ธ.ค.) ว่า แผนเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งต่อจากเขานั้น นับเป็น “หายนะ”
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่ง กล่าวเมื่อวันอังคาร (10 ธ.ค.) ว่า แผนเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งต่อจากเขานั้น นับเป็น “หายนะ”
ไบเดนระบุว่า การที่ทรัมป์ขู่ที่จะเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงสำหรับสินค้านำเข้านั้นถือเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่” พร้อมท้าทายให้ทรัมป์สานต่อความสำเร็จที่ไบเดนกล่าวว่าเกิดจากการบริหารงานของตน
สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) รายงานว่า ไบเดนได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อยกย่องผลงานของตนเอง หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งสมัยที่สอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความไม่พอใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อค่าครองชีพที่ระดับสูงภายใต้การบริหารของพรรคเดโมแครต
“ผมขอภาวนาให้ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่โยนโครงการ 2568 (Project 2025) ทิ้งไป ผมคิดว่านั่นจะเป็นหายนะทางเศรษฐกิจสำหรับเราและภูมิภาคนี้” ไบเดนกล่าวที่สถาบันบรูกกิงส์ (Brookings Institution) ในกรุงวอชิงตัน โดยระบุถึงโครงการอนุรักษ์นิยมสำหรับการบริหารงานในสมัยที่สองของทรัมป์
ไบเดนกล่าวว่า ผู้บริโภคสหรัฐจะต้องแบกรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรที่ทรัมป์ตั้งใจจะเรียกเก็บจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโกและแคนาดา รวมถึงจีนที่เป็นคู่แข่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“ผมเชื่อว่าแนวทางนี้เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่” ไบเดนกล่าวเสริม
ด้านเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า ภาษีศุลกากรของทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าที่เราทำไว้ในด้านเงินเฟ้อ และอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เยลเลนกล่าวในการประชุม CEO Council Summit ของวอลล์สตรีท เจอร์นัล (Wall Street Journal) ว่า การเก็บภาษีศุลกากรอย่างกว้างขวางอาจทำให้ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และสร้างแรงกดดันให้กับบรรดาบริษัทที่ต้องพึ่งพาการนำเข้า
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้ยกย่องสุนทรพจน์ของไบเดนว่าเป็น “การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญเกี่ยวกับผลงานทางเศรษฐกิจของเขา” โดยไบเดน วัย 82 ปี เหลือเวลาอีกไม่ถึง 6 สัปดาห์ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ขอบคุณสำนักข่าวอินโฟเควสท์
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้สำรวจ 5 ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราระดับโลก ได้แก่: สหราชอาณาจักร (ลอนดอน) – ศูนย์กลางอันดับหนึ่งของโลก มีสภาพคล่องสูงสุดเพราะเชื่อมโยงตลาดเอเชียและอเมริกา สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) – ฐานหลักของดอลลาร์สหรัฐ และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ สิงคโปร์ – ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย และประตูสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก ฮ่องกง – เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนนอกประเทศจีน ญี่ปุ่น (โตเกียว) – ฐานหลักของเงินเยน และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น การเข้าใจโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของตลาดเหล่านี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมสรรพากรสหรัฐฯ เลิกจ้างพนักงานราว 6,000 ตำแหน่งตามนโยบายทรัมป์
บทวิเคราะห์ทองคำ
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก
IC Markets Global
FxPro
OANDA
ATFX
EC Markets
Vantage
IC Markets Global
FxPro
OANDA
ATFX
EC Markets
Vantage
IC Markets Global
FxPro
OANDA
ATFX
EC Markets
Vantage
IC Markets Global
FxPro
OANDA
ATFX
EC Markets
Vantage