简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การตรวจสุขภาพการเงินปลายปีเป็นเหมือนการตั้งหลักใหม่ครับ เทรดเดอร์ที่รู้สถานะทางการเงินของตัวเองจะสามารถวางแผนการลงทุนและบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า
ปลายปีแบบนี้ หลายคนอาจกำลังยุ่งกับการวางแผนเที่ยว หรือจัดเตรียมของขวัญ แต่แอดเหยี่ยวขอบอกเลยว่าช่วงนี้เป็นโอกาสทองสำหรับการ “ตรวจสุขภาพการเงิน” ของตัวเองครับ
การเงินที่ดีเปรียบเสมือนเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเทรด เพราะถ้าเรารู้ว่าสถานะทางการเงินของเราเป็นยังไง จะช่วยให้เราตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น วันนี้แอดเลยจะมาแชร์ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการตรวจสุขภาพการเงิน ที่คุณสามารถทำได้ก่อนเริ่มต้นปีใหม่ครับ
1. ทบทวนรายรับ-รายจ่ายในปีที่ผ่านมา
เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการเปิดสมุดบัญชี (หรือแอปฯ บัญชีรายรับ-รายจ่าย) แล้วเช็กดูว่าในปีที่ผ่านมา
Tip จากแอดเหยี่ยว:
2. เช็กยอดหนี้สินทั้งหมด
สำหรับนักเทรด การมีหนี้สินไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่เราต้องรู้จัก บริหารหนี้ ให้ดี
เคล็ดลับแอดเหยี่ยว:
3. ตรวจสอบเงินออมและการลงทุน
มาดูกันว่าเงินออมและการลงทุนของคุณเติบโตไปในทิศทางที่คุณตั้งใจไว้หรือไม่
แอดเหยี่ยวแนะนำ: ถ้ายังไม่มีเงินสำรองฉุกเฉิน ให้เริ่มต้นสะสมไว้ปีหน้า ทบทวนพอร์ตการลงทุน: หุ้นตัวไหนไม่ปัง? หรือกองทุนไหนที่ควรขายออก?
4. วางแผนลดหย่อนภาษีปลายปี
ปลายปีแบบนี้อย่าลืมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี เช่น
Tip จากแอดเหยี่ยว: เลือกลงทุนในกองทุน SSF หรือ RMF ที่เหมาะกับเป้าหมายของคุณ เช่น หุ้นเติบโตหรือกองทุนที่จ่ายปันผล
5. ตั้งเป้าหมายการเงินปีหน้า
หลังจากตรวจสุขภาพการเงินเสร็จ ลองตั้งเป้าหมายการเงินสำหรับปีหน้าครับ
แอดเหยี่ยวแชร์: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ เช่น “ออมเงินเดือนละ 5,000 บาท” หรือ “เพิ่มพอร์ตหุ้นเติบโต 10%”
สรุป
การตรวจสุขภาพการเงินปลายปีเป็นเหมือนการตั้งหลักใหม่ครับ เทรดเดอร์ที่รู้สถานะทางการเงินของตัวเองจะสามารถวางแผนการลงทุนและบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า
แอดเหยี่ยวหวังว่าขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนเตรียมตัวรับปีใหม่อย่างมั่นใจนะครับ และขอให้ปีหน้าเป็นปีแห่งกำไรและความมั่นคงของทุกคน!
ขอบคุณข้อมูลจาก SET Thailand.
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้สำรวจ 5 ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราระดับโลก ได้แก่: สหราชอาณาจักร (ลอนดอน) – ศูนย์กลางอันดับหนึ่งของโลก มีสภาพคล่องสูงสุดเพราะเชื่อมโยงตลาดเอเชียและอเมริกา สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) – ฐานหลักของดอลลาร์สหรัฐ และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ สิงคโปร์ – ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย และประตูสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก ฮ่องกง – เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนนอกประเทศจีน ญี่ปุ่น (โตเกียว) – ฐานหลักของเงินเยน และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น การเข้าใจโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของตลาดเหล่านี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กำไรจากการขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณไม่ต้องเสียภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) อย่างไรก็ตาม การออมทองไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ยกเว้นค่ากำเหน็จทองรูปพรรณที่มีใบกำกับภาษี e-Tax Invoice บทความยังเปรียบเทียบภาระภาษีจากการลงทุนประเภทอื่น เช่น หุ้น พันธบัตร และคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อช่วยให้นักลงทุนวางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ การออมทองเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง แม้ราคาจะผันผวนตามเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงควรพิจารณาข้อมูลและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ
G7 ก่อตั้งขึ้นในปี 1975 โดยเริ่มจาก 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร ต่อมาแคนาดาเข้าร่วม กลายเป็น 7 ประเทศในปัจจุบัน
การลงทุนไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่คือ ศิลปะแห่งการวางแผนและดูแลอย่างสม่ำเสมอ พอร์ตของคุณจะเติบโตได้ดีแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความรัก ความเอาใจใส่