เผย 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตาสัปดาห์นี้

นักลงทุนในสหรัฐฯจะเบนความสนใจไปที่ผลประกอบการและโอกาสที่จะได้รับมาตรการบรรเทาทุกข์จากไวรัสโควิด-19 ในสัปดาห์หน้า ตลาดจะจับตาดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคล่าสุดในวันพุธท่ามกลางความคาดหวังที่จะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อฉากหลังทางเศรษฐกิจดีขึ้นและการเปิดตัววัคซีนก็เพิ่มขึ้น

ด้านยุโรปเปิดเผยข้อมูลในวันศุกร์ คาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรยังคงขยายตัวในไตรมาสที่สี่ ในขณะเดียวกัน Mario Draghi อดีตหัวหน้าธนาคารกลางยุโรปที่ประเมินว่าเศรษฐกิจจะเติบโตขึ้น โดยเพ่งเล็งไปที่การช่วยเหลือเงินยูโร โดยจะมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิตาลี

และนี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปกดาห์ของคุณ

1. ตัวเลขผลประกอบการ

ผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ดีเกินคาด จนถึงขณะนี้ในไตรมาสที่สี่เกินความคาดหวังของนักวิเคราะห์ ทั้งนี้ S&P 500 แทนที่จะลดลงตามที่คาดไว้ในตอนแรกรายได้ที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับการเจรจาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและความคืบหน้าเกี่ยวกับการเปิดตัววัคซีนที่เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้ S&P 500 และ Nasdaq โตขึ้นคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดรายสัปดาห์ นับตั้งแต่การเลือกตั้งในสหรัฐฯในต้นเดือนพฤศจิกายน

ผลประกอบการในไตรมาสสี่ที่ก้าวกระโดดจะช่วยหนุนความคาดหวังว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 และช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนว่าจะประเมินมูลค่าหุ้นมากเกินไป

2. มาตรการกระตุ้น

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯผลักดันให้มีมาตรการบรรเทาทุกข์โควิด -19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติงบประมาณอย่างหวุดหวิดเพื่อให้พรรคเดโมแครตสามารถผลักดันกฎหมายผ่านสภาคองเกรสในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าโดยจะมีหรือไม่มีการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันก็ได้

พรรครีพับลิกันเสนอแพ็คเกจความช่วยเหลือมูลค่า 600 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าหนึ่งในสามของแผนที่พรรคเดโมแครตเสนอ

คณะกรรมการรัฐสภาจะเริ่มร่างกฎหมายในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ Nancy Pelosi โฆษกพรรคได้คาดการณ์ว่ากฎหมายขั้นสุดท้ายจะผ่านสภาคองเกรสก่อนวันที่ 15 มีนาคมเมื่อผลประโยชน์การว่างงานพิเศษที่เพิ่มเข้ามาในระหว่างการระบาดจะหมดอายุลง

ข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ในเดือนมกราคม ตอกย้ำความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อหนุนเศรษฐกิจ

3. ข้อมูลเงินเฟ้อ

นักลงทุนจะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับข้อมูล CPI ในวันพุธท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจสูงขึ้น อาจยาวนานกว่าที่ธนาคารกลางสหรัฐคาดการณ์ไว้ในขณะนี้

นักลงทุนของกระทรวงการคลังของสหรัฐฯกำลังเดิมพันกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯกลับสู่ระดับปกติมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังจากที่หดตัวลงในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองในปี 2020

ความคาดหวังของแพคเกจบรรเทาโควิด-19 ใหม่เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เงินเฟ้อ

ในขณะเดียวกันประธานเฟด เจอโรมพาวเวล จะพูดเกี่ยวกับตลาดแรงงานในวันพุธ ผ่านการสัมมนาออนไลน์ ซึ่งจัดโดย Economic Club of New York ตัวเลขของวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก จะอยู่ในหัวข้อประชุมด้วย

4. GDP ของสหราชอาณาจักร

ตัวเลขในวันศุกร์คาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรยังคงขยายตัวในไตรมาสที่สี่แม้ว่าจะอยู่ในอัตราที่ช้ากว่าการขยายตัว 16% ที่บันทึกไว้ในช่วงสามเดือนก่อนหน้าเมื่อเศรษฐกิจกลับมาเปิดอีกครั้ง นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเติบโต 0.5% เมื่อเทียบรายไตรมาส แต่นั่นคือตัวเลขคาดการณ์ก่อนที่จะมีการบังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์ ข้อมูลสำหรับต้นปีมีแนวโน้มที่จะลดลงอีกครั้ง

เงินปอนด์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษระบุว่าอัตราดอกเบี้ยติดลบอยู่นอกตารางในตอนนี้และมุ่งเน้นไปที่ความคาดหวังของการฟื้นตัวหลังการปิดล็อกซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากโครงการฉีดวัคซีนของสหราชอาณาจักร

ธนาคารกลางปรับลดการคาดการณ์การเติบโตในปี 2564 โดยรวมเป็น 5% จากการคาดการณ์ในเดือนพฤศจิกายนที่ 7.25% แต่เพิ่มการคาดการณ์สำหรับปี 2565 เป็น 7.25% จาก 6.25%

5. ซูเปอร์มาริโอ

Mario Draghi ชายผู้อยู่เบื้อหลังการกอบกู้เงินยูโรจากการล่มสลายในช่วงวิกฤตหนี้ของยูโรโซนในปี 2555 ได้รับมอบหมายให้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิตาลี แต่งานของเค้าถูกตัดทิ้ง

นักลงทุนหวังว่า Draghi สามารถดำเนินการปฏิรูปเพื่อกระตุ้นการเติบโตในประเทศที่มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าเพื่อนร่วมยุโรปมานาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อยูโรโซนทั้งหมด

ตลาดการเงินของอิตาลีปรับตัวสูงโดยมีความคาดหวังว่า Draghi จะประสบความสำเร็จ สัปดาห์ที่แล้วผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ในขณะที่ช่องว่างของผลตอบแทนตราสารหนี้ของเยอรมันลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี