简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วันนี้เราจึงจะพามาหาคำตอบว่าอะไรคือข้อดี และอะไรคือข้อเสียของการมี “กฎหมายคุ้มครองนักลงทุน Forex”
จากการสำรวจบนหน้าแฟนเพจ WikiFX เราพบว่าเทรดเดอร์ไทยมากกว่า 90% ต่างโหวตว่า “อยากให้ไทย มีกฎหมายคุ้มครองนักลงทุน Forex” ขณะที่เกือบ 10% “กลับไม่เห็นด้วย” นั่นหมายความว่าอาจมีบางประเด็นที่ทำให้นักลงทุนไม่อยากขับเคลื่อนเรื่องนี้ วันนี้เราจึงจะพามาหาคำตอบว่าอะไรคือข้อดี และอะไรคือข้อเสียของการมี “กฎหมายคุ้มครองนักลงทุน Forex”
ข้อดีของการมี “กฎหมายคุ้มครองนักลงทุน Forex”
1. ลงทุน Forex อย่างสบายใจขึ้น
ทุกวันนี้ไทยไม่มีกฎหมายรองรับ Forex นักลงทุนจึงต้องยอมเทรดแบบ ‘แบกรับความเสี่ยงทุกอย่างเอง’ ทั้งความเสี่ยงที่เกิดจากการขาดทุน และความเสี่ยงที่เกิดจากการฉ้อโกงจากบางโบรกเกอร์ทั้งในและต่างประเทศ ถ้าหากมีกฎหมายคุ้มครองนักลงทุน เราก็ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงนี้ไว้คนเดียว มีหน่วยงานคอยดูแล ช่วยเหลือนักลงทุน และควบคุมให้การทำงานของโบรกเกอร์เป็นไปตามมาตรฐาน
2. ถ้าโดนโกง ร้องเรียนง่าย แก้ปัญหาเร็ว
เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ Forex เมื่อเกิดปัญหาโดนโกงก็ไม่รู้จะไปร้องเรียนที่ไหน นอกจากไปแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งการไปแจ้งความก็ต้องเป็นคดีใหญ่ ๆ แบบคนไปแจ้งเป็นร้อยขึ้นไป ถึงจะดำเนินการสอบสวนได้ ในไทยมีไม่กี่คดีเท่านั้นที่ทำได้ แต่หากมีกฎหมายควบคุมแล้ว เราจะสามารถไปร้องเรียนกับหน่วยงานได้โดยตรง เอาผิดคนร้ายได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น
3. โบรกเกอร์โกง โบรกเกอร์ปิดกิจการ ล้มละลาย ก็ได้เงินคืน
การที่มีกฎหมายคุ้มครองนักลงทุน หมายความหน่วยงานนั้น ๆ ไม่ได้ทำหน้าที่แค่สอดส่องดูแล แต่เข้ามาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนได้ด้วย การที่โดนโบรกเกอร์โกง โบรกเกอร์ปิดกิจการหนีหรือล้มละลาย นักลงทุนย่อมต้องได้รับเงินชดเชยตามสมควร ไม่เหมือนทุกวันนี้ที่ถ้าโดนโกง ต้องสวดมนต์เอาอย่างเดียว
4. ปิดตำนานโบรกเกอร์เถื่อน กองทุนโกง
เมื่อไทยไม่มีกฎหมายควบคุม ทำให้มีคนที่ไม่หวังดีใช้ Forex เป็นเครื่องมือในการฉ้อโกงนักลงทุนและสร้างความเสียหายในไทยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโบรกเกอร์เถื่อน หรือบริษัทที่ตั้งกองทุนแล้วแอบอ้างว่าจะนำไปลงทุน Forex ถ้าเกิดมีกฎหมายควบคุมขึ้นมา กลุ่มคนเหล่านี้จะไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และอนุญาตจากหน่วยงานเท่านั้น
ข้อเสียของการมี “กฎหมายคุ้มครองนักลงทุน Forex”
1. ภาษีเข้มงวดขึ้น
ข้อมูล ณ ตอนนี้ กำไรจากการเทรด Forex ถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 4 คือ เป็นรายได้ที่เกิดจากดอกเบี้ย เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไรและเงินลงทุน จึงต้องยื่นเสียภาษีเงินได้พึงประเมินตามปกติ แต่หากมีกฎหมายการควบคุม Forex แล้ว อาจมีการระบบการคิดภาษีที่ต่างไปจากเดิม มีความเข้มงวดขึ้นเฉพาะสำหรับ Forex โดยตรง เหมือนหลาย ๆ ประเทศ ที่มีการกำหนดว่าถ้าเทรด Forex ได้กำไร เท่านั้น เท่านี้ ขึ้นไป ต้องการภาษีกี่ %
2. ลงทุนกับกองทุน Forex จะมีขั้นตอนซับซ้อนขึ้น
ตอนนี้ไม่มีกฎหมายควบคุม คุณอยากลงทุนกับโบรกไหน กองทุน PAMM ของใครก็ทำได้ตามใจ แต่ถ้ามีกฎหมายควบคุมแล้ว คุณอาจจะจำเป็นต้องรายงานแก่หน่วยงานกำกับดูแลก่อน ต้องพิจารณาความเหมาะสมถึงจะลงทุนได้
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่การคาดการณ์ของผู้เขียนเท่านั้น เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะมีข้อบังคับใด มีการเปลี่ยนแปลงแบบไหน ถ้ายังไม่มีกฎหมายควบคุมจริง ๆ แต่อาจกล่าวสรุปรวม ๆ ได้ว่ากฎหมายนี้ จะทำให้มีสิ่งที่จะเสียไป คืออิสระในการลงทุน แต่สิ่งที่จะได้กลับมา คือการลงทุนอย่างปลอดภัย สบายใจหายห่วง
หากเทียบน้ำหนักกันดูแล้ว WikiFX ก็ยังเชียร์ให้มีกฎหมายคุ้มครองดูแลนะ การอยู่ใต้กฎหมายจะไม่ทำให้เทรดเดอร์ Forex ต้องโดดเดี่ยวเหมือนตอนนี้ แม้ขาดอิสรภาพบางอย่างไป แต่การคุ้มครองที่ได้รับอาจจะทำให้เราอยู่รอดในตลาดนี้ได้นานขึ้นก็เป็นได้ ถ้าคุณเห็นด้วย และอยากผลักดันเรื่องนี้ไปด้วยกัน WikiFX ขอชวนให้คุณ ‘ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้เพิ่มกฎหมายคุ้มครองนักลงทุน Forex ในไทย’ ผ่าน https://chng.it/nLH6SWQX5x หนึ่งเสียงของคุณ อาจจะเปลี่ยนวงการ Forex ไทยไปตลอดกาล
แนะนำฟีเจอร์ “การเปิดเผย” เราแนะนำถ้าคุณอยากดูรีวิวโบรกเกอร์จากผู้ใช้จริง สามารถกดเข้าไปที่ ‘การเปิดเผย’ และคุณจะเจอการร้องเรียนโบรกเกอร์ Forex จากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งถ้าคุณโดนโกงมาละก็ นี้เป็นฟีเจอร์ที่คุณสามารถมาร้องเรียนโบรกเกอร์เพื่อเป็นการเตือนนักลงทุนคนอื่นอีกด้วย!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ศาลยกฟ้องคดีแชร์ Forex-3D ดีเจแมน – ใบเตย-แดริล
ปัจจัยใดบ้างที่น่าจะมีผลสำคัญที่สุดต่อนักลงทุนในปี 2025? 1. ผลกระทบระดับโลกจากการปรับสมดุลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ 2. การเปลี่ยนแปลงจากเซมิคอนดักเตอร์ไปสู่ SaaS 3. การนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ใหม่
การสรุปพอร์ตในปีเก่าไม่เพียงแค่เป็นการทบทวนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมและวางแผนให้กับการลงทุนในปีใหม่ด้วย การตั้งเป้าหมายใหม่ การปรับกลยุทธ์ และการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม จะทำให้เรามีแนวทางที่มั่นคงและลดความเสี่ยงในการเทรดมากขึ้น ขอให้ทุกท่านพร้อมรับปีใหม่ด้วยความมั่นใจและกลยุทธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ!
ในปีนี้ อย่าลืมว่า การสร้างวินัยในการเทรด ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เสร็จได้ในวันเดียว มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน ความสำเร็จในการเทรดจะไม่เกิดขึ้นจากการกระทำที่หุนหันพลันแล่น แต่จะเกิดขึ้นจากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การพัฒนาตัวเอง และการทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
VT Markets
ATFX
Neex
IC Markets Global
GO MARKETS
FP Markets
VT Markets
ATFX
Neex
IC Markets Global
GO MARKETS
FP Markets
VT Markets
ATFX
Neex
IC Markets Global
GO MARKETS
FP Markets
VT Markets
ATFX
Neex
IC Markets Global
GO MARKETS
FP Markets