简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:หลังจากที่สกุลเงินดิจิทัลเข้ามาอยู่ในกระแสหลัก หลาย ๆ บริษัท ทั้งในไทยและต่างประเทศ ก็ต่างเริ่มประกาศรับชำระสินค้าเป็นบิทคอยน์กันแล้ว แต่ยังไงเหรียญก็มี 2 ด้าน วันนี้เราจึงพามารู้จักข้อดีและข้อเสียของการจ่ายเงินซื้อสินค้าด้วยบิทคอยน์กัน!
หลังจากที่สกุลเงินดิจิทัลเข้ามาอยู่ในกระแสหลัก หลาย ๆ บริษัท ทั้งในไทยและต่างประเทศ ก็ต่างเริ่มประกาศรับชำระสินค้าเป็นบิทคอยน์กันแล้ว บางประเทศก็ถึงกับยอมรับบิทคอยน์ให้สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากเว่อ! แต่ยังไงเหรียญก็มี 2 ด้าน วันนี้เราจึงพามารู้จักข้อดีและข้อเสียของการจ่ายเงินซื้อสินค้าด้วยบิทคอยน์กัน!
ข้อดี
1. บิทคอยน์ปลอดภัยกว่าการชำระเงินแบบเดิม ๆ
โควิด-19 ทำให้เกิดการฉ้อโกงบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น มีปริมาณเม็ดเงินดอลลาร์ที่ถูกทำธุรกรรมฉ้อโกงเพิ่มขึ้น 35% ในเดือนเมษายน 2020 บัตรเครดิตและเดบิตเป็นสาเหตุของการฉ้อโกงส่วนใหญ่ในบรรดาวิธีการชำระเงินทั้งหมด
Cryptocurrency ถือว่ามีความปลอดภัยมากกว่าการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเดบิต เนื่องจากคริปโตไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม เมื่อลูกค้าชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล ข้อมูลของพวกเขาจะไม่ถูกจัดเก็บในฮับแบบรวมศูนย์ ซึ่งมักเกิดการรั่วไหลของข้อมูล ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิตอลของพวกเขา
2. บิทคอยน์ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า
ปกติแล้ว ลูกค้ามีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เช่น PayPal คิดค่าบริการเกือบ 4% ต่อธุรกรรม (บางครั้งก็มากกว่านั้น) แต่ Cryptocurrency เรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ามาก ในการซื้อขาย Bitcoin Exchange บางแห่งมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า 1% หากธุรกิจของคุณให้บริการลูกค้าต่างประเทศ cryptocurrency สามารถช่วยหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมการชำระเงินในสกุลเงินต่างประเทศได้ เนื่องจากคริปโตไม่ได้ผูกติดอยู่กับประเทศต้นทางหรือธนาคารระดับชาติ ส่งผลให้ธุรกิจไม่ต้องรอการชำระเงินเพื่อเคลียร์ธนาคารต่างประเทศหรือชำระค่าใช้จ่าย
3. บิทคอยน์มีมูลค่าเพิ่ม
เทรดเดอร์ส่วนมากต่างซื้อบิทคอยน์มาเพื่อเก็งกำไร เพราะนัยหนึ่งบิทคอยน์ก็ทำหน้าที่เหมือนเป็นทองคำดิจิทัล การใช้จ่ายด้วยบิทคอยน์บางครั้งเราจึงได้กำไรเพิ่มอย่างไม่รู้ตัว เช่น ถ้าเราซื้อ bitcoin มา 1 BTC ในราคา 1 ล้านบาท แล้วราคาตลาดขึ้นเป็น 1.5 ล้านบาท เราเอา 1 BTC ไปแลกนาฬิกา Rolex 1 เรือน ราคา 1.5 ล้านบาท นั่นหมายความว่าเรามี “กำไร” 5 แสนบาท แต่ในทางกลับกัน มูลค่าก็มีความผันผวน ถ้าหากราคาบิทคอยน์ต่ำลง ข้อดีข้อนี้ก็จะกลายเป็นข้อเสียเช่นกัน
ข้อเสีย
1. จ่ายด้วยบิทคอยน์ ต้องจ่ายภาษีด้วย
cryptocurrency เป็น “ทรัพย์สิน” เพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษี ทุกครั้งที่คุณขาย ซื้อ หรือใช้ Bitcoin คุณต้องเสียภาษีกำไรจากการขาย (เหมือนที่อธิบายไว้ในข้อ 3) ซึ่งตามกฎหมายไทย กำหนดให้กำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ซื้อต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
2. โอนผิดแล้วเอาคืนไม่ได้
ธุรกรรม Cryptocurrency ไม่สามารถย้อนกลับได้ เพราะธุรกรรมในโลกคริปโตไม่ได้ระบุตัวตน ไม่ได้ครอบงำภายใต้หน่วยงานไหน ความเป็นอิสระจึงเป็นดาบ 2 คม ถ้าโอนผิดคือผิด ไม่มีคืนเงิน ซึ่งต่างจากธุรกรรมในบัตรเครดิตที่สามารถยกเลิกได้ หรือโอนเงินผิดก็ไปแจ้งอายัดบัญชีปลายทางได้
3. ยังถือว่าเสี่ยงมาก
แฟน ๆ Crypto ต่างชื่นชมที่สกุลเงินนี้ปลอดจากภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลไม่สามารถจัดการมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลได้ ซึ่งเป็นทั้งความเสี่ยงและผลประโยชน์ เพราะในทางกลับกัน มูลค่าของ bitcoin และ crypto อื่น ๆ มีความผันผวนอย่างมาก ความผันผวนของ Bitcoin สูงถึงเกือบ 8% ความคาดเดาไม่ได้ในระดับนั้น ทำให้สกุลเงินดิจิทัลป้องกันความเสี่ยงได้ยาก
ยังจะตัดสินใจใช้จ่ายอย่างไร ก็ลองชั่งน้ำหนักตามข้อดีข้อเสียที่ว่ามานะจ๊ะ แล้วกลับมาติดตามข่าวสารที่สดใหม่ รวดเร็ว ถึงใจ พร้อมบทความเกร็ดความรู้ในโลกคริปโตแบบนี้ ได้ที่ “WikiBit” แอปนำเสนอข่าวสารวงการคริปโต พร้อมให้บริการตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน เพียงแค่กดค้นหา ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะขึ้นมาแบบจัดเต็ม ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
FXTM
STARTRADER
Tickmill
IC Markets Global
OANDA
TMGM
FXTM
STARTRADER
Tickmill
IC Markets Global
OANDA
TMGM
FXTM
STARTRADER
Tickmill
IC Markets Global
OANDA
TMGM
FXTM
STARTRADER
Tickmill
IC Markets Global
OANDA
TMGM