简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ทาง SEC ได้ยื่นมอบหนังสือเพิ่มเติมเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนโดยอ้างถึงคำพิพากษาล่าสุดเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวในการโจมตี Ripple ทางฝั่งจำเลยเองก็ได้มีการโต้แย้งข้อเรียกร้องของ SEC
คำตัดสินของผู้พิพากษาได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (SEC) ส่งอีเมลที่มีร่างคำแถลงการณ์ของ William Hinman อดีตผู้อำนวยการ ว่า Ethereum นั้นถือเป็นสินทรัพย์หรือไม่ James K. Filan อดีตอัยการของรัฐบาลกลางกล่าวว่า ก.ล.ต. เชื่อว่าบางส่วนของร่างนั้นถูกขอให้กลับลำนั้นจึงทำให้สะท้อนให้เห็นถึงความคิดของผู้ที่ทำการร่างหรือมีสะท้อนให้เห็นถึงการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของ SEC ดังนั้นจึงได้มีการจำกัดการเข้าถึง
อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. คาดว่าจะส่งอีเมลพร้อมคำปราศรัยของ Hinman และร่างบางส่วนจากการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. และบุคคลที่สามที่ไม่ใช่บุคคลของ Ripple ตามข้อมูลของผู้เสนอ XRP นี่ถือเป็นอีกหนึ่งชัยชนะที่สำคัญสำหรับ Ripple แม้ว่าจะมีข้อจำกัด ถึงจะกินเวลานานแต่ก็ส่งผลดี? ก่อนหน้านี้ทาง U.Today ได้รายงานเกี่ยวกับ Sarah Netburn ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ ได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันให้เกิดการกำหนดวันสิ้นสุดคดีความระหว่าง SEC กับ Ripple เป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ซึ่งก่อนหน้านี้มีกำหนดการสิ้นสุดในวันที่ 19 มกราคมทั้งสองฝ่ายนั้นได้ขอให้ขยายเวลาร่วมกันเพื่อการให้ปากคำของพยานเพิ่มเติมเนื่องจากข้อจำกัดในการเดินทางและปัญหาส่วนตัวพยานผู้เชี่ยวชาญทั้ง 8 คนจึงยังไม่ได้มาให้การเป็นพยาน
ทาง SEC ได้ยื่นมอบหนังสือเพิ่มเติมเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนโดยอ้างถึงคำพิพากษาล่าสุดเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวในการโจมตี Ripple ทางฝั่งจำเลยเองก็ได้มีการโต้แย้งข้อเรียกร้องของ SEC โดยอ้างว่าใช้คำตัดสินผิดจากคดีก่อนหน้านี้ ตามที่รายงานโดย U.Today Stuart Alderoty ที่ปรึกษาทั่วไปของ Ripple ได้เรียกร้องให้ SEC เร่งกระบวนการดำเนินคดีให้เร็วขึ้นโดยย้ำว่า SEC นั้นได้สร้างรอยด่างพร้อยให้กับอุตสาหกรรมคริปโต
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ