简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:แม้ว่า "เสียงส่วนใหญ่" ของผู้กำหนดนโยบายธนาคารกลางสหรัฐจะสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยขนาดใหญ่ในเดือนกันยายน แต่ก็มีสัญญาณว่าสมาชิกบางคนต้องการเริ่มต้นวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยด้วยจำนวนที่น้อยกว่า เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ตามรายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 17-18 กันยายน ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ
แม้ว่า “เสียงส่วนใหญ่” ของผู้กำหนดนโยบายธนาคารกลางสหรัฐจะสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยขนาดใหญ่ในเดือนกันยายน แต่ก็มีสัญญาณว่าสมาชิกบางคนต้องการเริ่มต้นวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยด้วยจำนวนที่น้อยกว่า เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ตามรายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 17-18 กันยายน ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ
เมื่อสิ้นสุดการประชุมครั้งก่อนในวันที่ 18 กันยายน คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 50 จุดพื้นฐาน (bps) สู่ช่วง 4.75% ถึง 5% ซึ่งนับเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020
เสียงส่วนใหญ่สนับสนุนการลดขนาดใหญ่เพราะเห็นว่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นใน Q1 นั้นเป็นเพียงชั่วคราว
รายงานการประชุมของเฟดระบุว่า “เสียงส่วนใหญ่ของผู้เข้าร่วมนั้นสนับสนุนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายของกองทุนของรัฐบาลกลางลง 50 จุดพื้นฐานเป็น 4.75 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์” ซึ่งสมาชิกเชื่อว่าการลดขนาดใหญ่จะช่วย “ปรับให้อยู่ในแนวเดียวกับตัวชี้วัดเงินเฟ้อและตลาดแรงงานล่าสุดได้ดียิ่งขึ้น”
ในการสนับสนุนการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย ผู้เข้าร่วมจำนวนมากได้รับความมั่นใจจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงในไตรมาสสองและสาม ซึ่งบ่งชี้ว่า “ตัวเลขของเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดในไตรมาสแรกเป็นเพียงการหยุดชั่วคราวในการดำเนินความคืบหน้าสู่เป้าหมาย 2 เปอร์เซ็นต์” ตามที่รายงานการประชุมแสดง
สมาชิกบางคนต้องการการลดที่น้อยกว่าในเดือนกันยายน
แม้ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ มิเชลล์ โบว์แมน จะเป็นผู้คัดค้านเพียงคนเดียวที่ต้องการลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 25 จุดพื้นฐาน แต่รายงานการประชุมบ่งชี้ว่าสมาชิกบางคนยังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการเริ่มต้นวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยด้วยการลดลงถึงครึ่งจุด
“เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงเล็กน้อยในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและอัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ ผู้เข้าร่วมประชุมบางส่วนจึงสังเกตว่าพวกเขาต้องการให้ลดเป้าหมายลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมครั้งนี้ และบางคนยังระบุว่าพวกเขาสามารถสนับสนุนการตัดสินใจดังกล่าวได้” รายงานการประชุมกล่าวเสริม
เกี่ยวกับแนวโน้มของการลดอัตราดอกเบี้ย สมาชิกคาดการณ์ว่า “หากข้อมูลออกมาตามที่คาดการณ์ โดยเงินเฟ้อเคลื่อนตัวลงสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจเข้าใกล้การจ้างงานเต็มที่ มันก็จะมีความเหมาะสมที่จะดำเนินการไปสู่ท่าทีทางนโยบายที่เป็นกลางมากขึ้นตามเวลา”
ในการสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน รายงานการประชุมสะท้อนว่าสมาชิกหลายคนสังเกตว่าการลดอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลงจะสอดคล้องกับ “เส้นทางปกติของการปรับนโยบายที่ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายมีเวลาในการประเมินระดับการควบคุมในขณะที่เศรษฐกิจกำลังพัฒนาไป”
อย่างไรก็ตาม สมาชิกบางคนเชื่อว่าเส้นทางที่อัตราดอกเบี้ยกำลังมุ่งหน้าไปจะมีความสำคัญมากกว่าในแง่ของการกำหนดระดับการควบคุมนโยบายมากกว่าขนาดของการลดอัตราในที่ประชุมเดือนกันยายน
ในที่ประชุม การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่สรุปโดยเฟดหรือ SEPs แสดงให้เห็นว่าสมาชิกได้เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย โดยพวกเขาประเมินว่าจำเป็นต้องมีการลดลงอีก 50 จุดพื้นฐานเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือนมิถุนายนว่าจะมีการลดเพียงครั้งเดียว และอาจมีการปับลดเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง ซึ่งในที่สุดมันจะนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของเฟดลงไปสู่ตัวเลข 2.9% ในปี 2026
เกี่ยวกับตลาดแรงงาน ผู้เข้าร่วมหลายคนยอมรับว่าอุปทานและอุปสงค์ในตลาดแรงงานอยู่ในสภาพสมดุลโดยประมาณ และคาดการณ์ว่าการเพิ่มค่าจ้าง “ไม่น่าจะทำให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อทั่วไปในอนาคตอันใกล้”
แต่มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่การประชุมเฟดในเดือนกันยายน
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้เดิมพันอัตราดอกเบี้ยลดลงหลังจากการประชุม
ข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ซึ่งบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจได้ทำให้ความมั่นใจในการเดิมพันการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่นั้นลดลง โดยบางคนถึงกับตั้งคำถามว่าเฟดอาจหยุดวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
“ตลาดในตอนนี้กำลังคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของเฟด ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญจากเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อน” นักกลยุทธ์จาก UBS กล่าวในหมายเหตุเมื่อวันอังคาร
อย่างไรก็ตาม หลังจากรายงานการจ้างงานเดือนกันยายนที่แข็งแกร่ง สมาชิกเฟดบางคนยังคงสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยยินดีต่อความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงอยู่ในเส้นทางที่จะ soft landing
“ในขณะนี้ เราคิดว่านโยบายการเงินอยู่ในตำแหน่งที่ดี และหากนักลงทุนมองการคาดการณ์ SEP ที่เห็นภาพมุมมองทั้งหมด มันเป็นกรณีพื้นฐานที่ดีมากกับเศรษฐกิจที่ยังคงมีเติบโตและเงินเฟ้อกลับมาสู่ระดับ 2%” ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก จอห์น วิลเลียมส์ กล่าวเมื่อวันอังคาร
ตลาดตอบสนองต่อรายงานการประชุมอย่างเงียบ ๆ โดย ตลาดหุ้น ยังคงรักษาการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ไว้ได้ เนื่องจากเทรดเดอร์คาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยที่ 25 จุดพื้นฐานในการประชุมเดือนพฤศจิกายนของเฟดอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
“หลังจากรายงานการประชุม ตลาดได้ลดโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยที่ 25 จุดพื้นฐานในเดือนพฤศจิกายนลงเหลือ 75% จาก 87% โดยเพิ่มโอกาสที่จะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาถึง 25% ซึ่งเป็นการตอบสนองที่เกินจริงเนื่องจากคำกล่าวของธนาคารกลางสหรัฐยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงท่าที hawkish” Oxford Economics กล่าวในหมายเหตุ
ขอบคุณข้อมูลจาก investing thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กนง.เสียงแตกมติ 5 ต่อ 2 เสียง ลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 2.25% ต่อปี วันที่ 16 ตุลาคม 2567 นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี จาก 2.50% ต่อปี เหลือ 2.25% ต่อปี ขณะที่จีดีพีปี 2567 อยู่ที่ 2.6% เป็น 2.7% และปี 2568 อยู่ที่ 3.0% เหลือ 2.9%
ระบบเทรด PVSRA (Price, Volume, Support and Resistance Analysis) เป็นกลยุทธ์ในการวิเคราะห์ตลาดที่มุ่งเน้นการศึกษา ราคา ปริมาณการซื้อขาย และแนวรับ-แนวต้าน เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้เล่นหลักในตลาดและคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต การวิเคราะห์ประกอบด้วยการติดตามแนวโน้มราคา การประเมินปริมาณการซื้อขายเพื่อดูแรงกดดัน และการระบุจุดที่ราคามีแนวโน้มจะหยุดหรือพลิกกลับ โดยแบ่งการเข้าเทรดเป็นสองกรณี ได้แก่ ขาขึ้นและขาลง ระบบ PVSRA ช่วยให้ผู้เทรดตัดสินใจได้ดีขึ้นในตลาด Forex ผ่านการวิเคราะห์ที่เป็นระบบ แต่อาจมีจุดอ่อนที่ต้องพิจารณา เช่น ความเสี่ยงจากสัญญาณหลอกและความต้องการประสบการณ์ในการตีความข้อมูลอย่างถูกต้อง.
บทความนี้กล่าวถึงการเริ่มต้นเทรด Forex โดยอธิบายถึงจำนวนเงินขั้นต่ำที่จำเป็นในการเริ่มต้นและปัจจัยที่ควรพิจารณา การฝากเงินเข้าไปในบัญชีเทรดเป็นขั้นตอนแรก ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์มียอดฝากขั้นต่ำที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปมักเริ่มต้นที่ $5 ถึง $50 การเลือกโบรกเกอร์จึงควรพิจารณาทั้งเงื่อนไขการฝากและการถอนเงิน รวมถึงโบนัสโปรโมชั่นที่อาจมีให้ แม้การเริ่มต้นเทรดจะใช้เงินไม่มาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความสำเร็จจะตามมาโดยอัตโนมัติ การบริหารความเสี่ยง การจัดการเงินทุน และการศึกษาเกี่ยวกับตลาดเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าจำนวนเงินทุนในบัญชี สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มฝึกในบัญชีทดลอง (Demo) ก่อน เพื่อทำความเข้าใจการใช้เครื่องมือต่าง ๆ และเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์จริงในตลาด เมื่อพร้อมแล้วค่อยเปิดบัญชีจริงเพื่อเทรด การมีทุนหนาอาจช่วยลดความเสี่ยงบางส่วน แต่ไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้ เพราะนิสัยการเทรดและการจัดการเงินทุนเป็นปัจจัยหลักในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
บทวิเคราะห์ทองคำ
Vantage
IC Markets Global
OANDA
Octa
GO MARKETS
Tickmill
Vantage
IC Markets Global
OANDA
Octa
GO MARKETS
Tickmill
Vantage
IC Markets Global
OANDA
Octa
GO MARKETS
Tickmill
Vantage
IC Markets Global
OANDA
Octa
GO MARKETS
Tickmill